
เมื่อนำพวกผมไปถึงโรงพัก ตำรวจได้แยกทุกคนออกไปทำการสอบสวน ผมได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยผมให้การไปตามความเป็นจริงว่าถูกเหมารถมา แต่ตำรวจไม่เชื่อเนื่องจากรถของผมไม่มีหลักฐานว่าเป็นรถรับจ้างสาธารณะ อีกทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าของผมก็วางอยู่รวมกับกระเป๋าที่พบยาเสพติดอีกด้วย ไม่ว่าผมจะอธิบายอย่างไรตำรวจก็ไม่ยอมเชื่อผม แจ้งข้อหาว่าผมเป็นนักค้ายาเสพติด ทั้งที่ผมไม่เคยเห็นหรือแตะต้องมันมาก่อนเลยในชีวิต
ส่วนผู้โดยสารของ ผมทั้งสามคนนั้น มีความเป็นลูกผู้ชายเพียงพอ ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของยาเสพติด โดยบอกกับตำรวจไปว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยแม้แต่น้อย แต่ตำรวจยังคงไม่เชื่อเช่นเดิมเนื่องจากเจ้าของรถก็คือผม ตำรวจบอกว่าที่ทั้งสามคนต้องการกันผมออกไปจากคดี เพราะว่าต้องการให้ผมวิ่งเต้นช่วยเหลือดูแลทั้งสามในภายหลัง ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ตำรวจทำสำนวนส่งฟ้องพวกผมทุกคน และส่งตัวเข้าฝากขังในเรือนจำฯ
ผมต้องติดคุกอยู่หลายฝากกว่าจะถูก ตัดสิน ผลการตัดสินของศาลปรากฏว่าให้จำคุกทุกคนไว้ตลอดชีวิต แต่ผู้โดยสารทั้งสามของผมซึ่งเป็นเจ้าของยาตัวจริงได้ให้การรับสารภาพ ตั้งแต่ชั้นสอบสวน จึงได้รับการลดหย่อนโทษเหลือ ๕๐ ปี ส่วนผมซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย และให้การปฏิเสธมาตลอด ไม่ได้รับการลดหย่อนโทษให้แม้แต่น้อย ทั้งสามได้เข้ามาขอโทษและแสดงความเห็นใจผม แต่จะมีประโยชน์อะไรเล่าครับ เมื่อผมยื่นอุทธรณ์และฎีกาไป ทั้งสองศาลได้ตัดสินผมยืนตามศาลชั้นต้น
หัว หน้าเชื่อไหมครับ ผู้โดยสารตัวดีทั้งสามของผมตอนนี้ได้ปล่อยตัวออกไปเมื่ออภัยใหญ่ครั้งที่ แล้วนี่เอง ก่อนไปยังมาลาผมพร้อมกับขออโหสิกรรม ซึ่งผมก็ยินดียกโทษให้เพราะไม่รู้จะโกรธแค้นไปทำไม คงเป็นเวรกรรมของผมในชาติก่อนกระมังครับหัวหน้าถึงได้เป็นเช่นนี้ คนทำจริงได้ปล่อยตัวออกไปแล้ว แต่ผมซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยยังคงมีโทษเหลืออยู่ถึง ๔๐ ปี ผมถูกจำคุกมาแล้วเกือบ ๒๐ ปี ยังต้องติดคุกต่อไปอีกตั้ง ๒๐ กว่าปี ถ้าผมไม่ได้อภัยเหมือนกับเขาอีกในครั้งหน้าเพราะเป็นคดียา ผมคงต้องแก่ตายในคุกอย่างแน่นอนครับหัวหน้า
หัวหน้าจำไว้นะครับ อย่าไว้ใจใครง่ายๆ ถ้าหัวหน้ามีรถแล้วมีใครมาขออาศัยนั่งรถไปไหนด้วย หัวหน้าปฏิเสธได้ก็ให้ปฏิเสธไปเลย แต่ถ้าปฏิเสธไม่ได้ ให้ขอดูสิ่งของและสัมภาระของคนนั้นอย่างละเอียดเสียก่อนไม่ต้องเกรงใจ โดยให้อ้างเรื่องของผมเป็นตัวอย่าง ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจเขาต้องยอมให้เราตรวจดู แต่ถ้าเขาไม่ยอมให้ดูก็อย่าให้ขึ้นรถอย่างเด็ดขาด โกรธเป็นโกรธ อย่าไปยอมเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทแค่ไหนก็อย่าไว้ใจอย่างเด็ดขาด
ใน คุกบางขวางแห่งนี้หัวหน้าก็เห็นตัวอย่างมามากแล้วไม่ใช่หรือครับ พ่อต้องมาติดคุกเพราะลูก น้องต้องมาติดคุกเพราะพี่ หลานต้องมาติดคุกเพราะอา เพื่อนต้องมาติดคุกเพราะไว้ใจเพื่อนสนิท สาเหตุเพราะไปนั่งอยู่ในรถคันเดียวกัน หรืออยู่ในบ้านหลังเดียวกัน เมื่อถูกจับเขาไม่เชื่อหรอกครับว่าไม่รู้เรื่องอะไรด้วย สุดท้ายก็ต้องมาติดคุกฟรีไป จนบางคนต้องมาตายอยู่ในคุกแห่งนี้
จำคำผม ไว้นะครับว่า อย่าเชื่อใจใครง่ายๆ อย่างเด็ดขาด ถ้าพลาดแล้วอย่าหวังว่าจะมีใครมาช่วยเหลือเราได้ ทำอะไรให้เชื่อตัวเองไว้ก่อน คิดอ่านให้รอบคอบ อย่าประมาทอย่างเด็ดขาด โอกาสพลาดท่าเสียทีก็จะไม่มีมาง่ายๆ ครับ
ผมคงเล่าเรื่องของผมให้หัว หน้าฟังแค่นี้นะครับ เดี๋ยวเขาจะแจกข้าวเย็นแล้ว ผมขอตัวไปรับข้าวแดงก่อน ไว้มีโอกาสผมจะมาคุยกับหัวหน้าใหม่ ผมไปก่อนนะครับ สวัสดี”
เรื่องที่ ลุงแดงเล่ามานั้น ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าจริงเท็จมากน้อยแค่ไหน แต่คำเตือนของลุงแดงที่มีให้แก่ข้าพเจ้านั้น เชื่อว่าสามารถเตือนสติให้แก่คนทั่วไปได้บ้างไม่มากก็น้อย จงระวังตนอย่าได้ต้องมามีชีวิตเช่นลุงแดงกันเลย
หมายเหตุ...ชื่อลุงแดงเป็นชื่อสมมุติ ปัจจุบันนี้ลุงคนนี้ได้พ้นโทษออกจากเรือนจำไปหลายปีแล้ว โดยติดคุกรวมทั้งสิ้นยี่สิบกว่าปี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เพจแฟนคลับ ยุทธ บางขวาง
thaispygadget