เครื่องติดตามและดักฟัง หลายคนมักคิดว่าอุปกรณ์ประเภทนี้ถูกติดตั้งด้วยบริษัท หรือ นักสืบ แต่จริงๆแล้วอุปกรณ์ประเภทนี้สามารถติดได้ด้วยตนเอง และเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งากันอย่างแพร่หลาย หาซื้อได้ตามช่องทางออนไลน์ทั่วๆไป บ้างก็ใช้ติดตามคนรัก บ้างก็ใช้ติดตามรถเพื่อกันถูกขโมย บ้างก็ใช้ติดตามลูกน้องฯ แต่อย่างไรก็ดี เมื่อผู้ถูกติดตามดันเกิดอาการอยากหาเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ขึ้นมา เราก็เลยรวบรวมข้อมูลและเทคนิคในการหาจีพีเอสในรถยนต์มาไว้ทั้ง 5 ข้อ ดังนี้
1.เตรียมไฟฉาย
อุปกรณ์ติดตามส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์ในการติดตามอย่างถูกกฎหมาย ก่อนอื่นควรรู้ก่อนว่าจะหาอุปกรณ์ชนิดใด GPS ดักฟัง กล้องจิ๋ว หรือ เครื่องอัดเสียง แน่นอน การหาอุปกรณ์พวกนี้ไม่สามารถหาได้ด้วยตาเปล่าแน่ๆ เพราะขึ้นชื่อว่าเครื่องติดตาม เครื่องดักฟัง คนที่นำมาใส่ในรถต้องเตรียมการมาเป็นอย่างดี รู้จุด วางได้เนียน ยากที่จะเจอด้วยตาเปล่า ฉะนั้นเตรียมไฟฉายแบบสว่างเยอะหน่อย แล้วนำไปฉายตามจุดต่างๆ เช่น ใต้เบาะ,ช่องข้างประตู,กระเป๋าหลังเบาะคนนั่ง,แผงคอนโซล,ใต้ท้องรถยนต์,ฝากระโปรงท้าย เป็นต้น จุดซ่อนเหล่านี้มักเป็นที่ซ่อนหลักๆ ง่ายต่อการวางและเอาออก
2.ทำการตรวจสอบภายนอก
อุปกรณ์ติดตามมักจะมีขนาดกะทัดรัดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับติดนอกรถ นำไฟฉายส่องใต้ท้องรถและซุ้มล้อ จากนั้นใช้มือควานหาบริเวณซุ้มล้อและตัวถังข้างรถ หากไม่เจอให้ส่องเข้าไปยังช่วงล่างของรถ แต่อย่าลืมว่าช่วงล่างรถยนต์นั้นสกปรกมากๆหากเครื่องติดตามอยู่ในจุดนี้ก็ควรจะสังเกตดีๆ แต่คงไม่มีทางที่จะเครื่องติดตามจะติดไว้ตรงท่อไอเสียหรือเครื่องยนต์เพราะมีอุณหภูมิความร้อนสูงเครื่องไม่สามารถทนต่อความร้อนสูงได้
3.ตรวจสอบการตกแต่งภายในห้องโดยสารรถยนต์
อุปกรณ์ติดตามบางรุ่นใช้งานง่ายและไม่มีแบตเตอรี่เพราะฉะนั้น การต่อเข้ากับพอร์ตช่องเสียบ USB ในรถยนต์จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนชอบนำมาติดตั้งหากพบว่าเครื่องติดตั้งอยู่ในจุดดังกล่าวสามารถปิดการทำงานของมันโดยการถอดสายต่อพ่วง
3.1 ตรวจสอบช่องเก็บยางท้ายรถ
3.2 ตรวจสอบใต้เบาะคนนั่งข้างและคนขับ
4.ใช้เครื่องตรวจหาสัญญาณจีพีเอส
วิธีนี้เป็นวิธีเช็คที่ง่ายที่สุด เพราะแค่เปิดเครื่องแล้วตรวจหาสัญญาณก็จะทราบทันทีว่าในรถยนต์มีเครื่องติดตามติดตั้งอยู่ โดยเมื่อเครื่องตรวจจับหาสัญญาณจีพีเอสได้ เครื่องจะส่งเสียงร้องให้เราทราบ หรือ บางรุ่นก็จะเกิดการสั่นเพื่อแจ้งเตือน การใช้เครื่องตรวจหาจีพีเอสทำได้โดยการเปิดเครื่องแล้วขับรถไปเรื่อยๆ เมื่อรถเคลื่อนที่ GPSจะส่งสัญญาณออกไปยังผู้ติดตามเพื่อทราบความเคลื่อนไหว และนั่นก็เป็นผลดีเพราะเครื่องตรวจจับจีพีเอสจะทำการจับสัญญาณในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ บ่งบอกให้เราทราบว่ามีจีพีเอสอยู่ในรถ
5.ให้ผู้เชี่ยวชาญยานยนต์ช่วยตรวจสอบ หรือ ใช้เครื่องตัดสัญญาณ
วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายอีกเช่นกันแต่มีค่าใช้จ่ายสูง เพราะหากพบจีพีเอสที่ติดกับรถยนต์และไม่สามารถนำออกได้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาถอดออก หากถอดด้วยตนเองอาจมีชิ้นส่วนบางอย่างภายในรถเกิดความเสียหายและเป็นอันตรายต่อระบบไฟในรถยนต์ได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะมีความชำนาญในการถอดและติดตั้งเป็นอย่างดี และถ้าหากใช้เครื่องตัดสัญญาณสามารถทำได้แต่เครื่องประเภทนี้เป็นอันตรายต่อระบบไฟและน้ำมัน หากไม่มีความรู้การใช้งานเป็นอย่างดีแล้วล่ะก็เครื่องตัดสัญญาณอาจทำให้รถเกิดความเสียหายและอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้สูง
-TR1 ในการหาอุปกรณ์ดักฟัง ใช้หลักการตรวจหาสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นในขณะที่มีการโทรเข้าไปดักฟัง ยิ่งเครื่องเข้าใกล้จุดที่ซ่อนมากเท่าไหร่ สัญญาณที่ตรวจเจอจะยิ่งเเรงขึ้น ทำให้สามารถหาตำแหน่งเครื่องดักฟังได้อย่างรวดเร็วและเเม่นยำ นอกจากเครื่องดักฟังทั่วไปแล้ว TR-1 ยังตรวจจับสัญญาณไวไฟ ทำให้สามารถหากล้องแอบถ่ายไร้สายได้ด้วย
-TR1 ในการหากล้องแอบถ่ายจะแตกต่างจากรุ่นก่อนๆ เพราะนอกจากการใช้การตรวจหาด้วยแสงสะท้อนจากเลนส์ที่ซ่อนไว้ มันยังสามารถตรวจจับแสงอินฟราเรดที่มักใช้แอบถ่ายในสถานที่มืดได้ด้วย
-TR1 ตรวจหาแม่เหล็กได้ ช่วยในการหาตำแหน่งของอุปกรณ์ที่มีแม่เหล็กเป็นส่วนประกอบ เช่น Gps ได้
-TR1 โหมดแจ้งเตือนเมื่อจุดที่วางเครื่องมีการสั่นสะเทือน ช่วยป้องกันผู้บุกรุกเข้ามาในพื้นที่ห่วงห้ามได้