การตัดสัญญาณรบกวนจากดิน (Ground balance)
แร่ธาตุในดินจะทำให้ประสิทธิภาพในการตรวจหาโลหะลดลง จริงหรอครับในดินเยอะจะทำให้ ความแม่นยำน้อยลงตรวจจับวัตถุได้ตื้นขึ้น และจะมีเสียงรบกวนที่มากขึ้น
Quest X10 Pro มีฟังก์ชันในการตัดสัญญาณรบกวนจากแร่ธาตุที่อยู่ในดิน ผู้ใช้สามารถใช้ฟังก์ชันนี้ได้ในทุกครั้งที่ลงสู่สนามจริง เพื่อที่จะตัดแค่ธาตุในดิน ในบริเวณพื้นที่นั้น เพื่อให้เหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาที่ดีขึ้น
วิธีการตั้งค่า Ground Balance
ให้กดปุ่ม Ground Balance ค้างไว้พร้อมกับ ปั๊มเครื่องขึ้นลงเหนือพื้นประมาณ 1 ฟุต จนกว่าจะได้ยินเสียง "ปี๊บ" สั้นๆ ถือว่าการตั้งค่า Ground Balance สำเร็จพร้อมใช้งาน
การระบุตำแหน่งของวัตถุเป้าหมายด้วยเครื่อง QUEST X10 PRO
การระบุตำแหน่งถือเป็นความท้าทายครึ่งนึงเลยของกระบวนการค้นหา เพราะเมื่อเครื่องมีสัญญาณเตือนในบริเวณใกล้แล้ว การระบุตำแหน่งนั้นจำเป็นมากเพื่อที่เราจะได้ขุดและหยิบมันขึ้นมาได้ตรงจุดและเจอวัตถุได้ไว และก็ไปค้นหาวัตถุชิ้นต่อไปได้ การฝึกฝนการระบุตำแหน่งกับวัตถุที่เราเป็นคนเอาไปฝังไว้เองที่บ้านจะช่วยให้เราชำนาญมากขึ้น มากกว่าไปลองค้นหาจริงแล้วค่อยฝึกระบุตำแหน่ง จะช่วยประหยัดเวลาตอนเราออกไปนอกสถานที่
การระบุตำแหน่งด้วยวิธีกากบาท
1. เอาจานตรวจจับไปไว้ทางด้านข้างของตำแหน่งที่เครื่องร้องเตือนว่าพบวัตถุ
2. กดปุ่มระบุตำแหน่ง (pinpoint) บนแป้นค้างไว้
3. เลื่อนกวาดจานตรวจจับเป็นรูปกากบาท
4. สังเกตที่หน้าจอ หาตำแหน่งที่ระบุว่าวัตถุอยู่ตื้นที่สุดและมีความดังของเสียงเตือนมากที่สุด
5. ตำแหน่งของวัตถุเป้าหมายจะอยู่ตรงกลางใต้จานตรวจจับ ส่วนที่จานเชื่อมต่อกับแกนเครื่อง ที่ระดับความลึกประมาณเท่าที่แสดงบนจอ
การระบุตำแหน่งด้วยวิธีปรับใหม่
1. เอาจานตรวจจับไปไว้ทางด้านข้างของตำแหน่งที่มันร้องเตือนว่าพบวัตถุ
2. กดปุ่มระบุตำแหน่ง (pinpoint) บนแป้นค้างไว้
3. กวาดจานตรวจจับไปในบริเวณนั้น
4. พอความดังของเสียงเริ่มจะเพิ่มขึ้น ให้ปล่อยปุ่มระบุตำแหน่งแล้วกดใหม่ทันที เสียงจะหายไปเพราะเครื่องจะปรับการรับสัญญาณจากวัตถุใหม่
5. ค่อยๆกวาดเครื่องไปในบริเวณนั้นและทำซ้ำตามข้อ 4 คือถ้าเริ่มดังขึ้นให้ปล่อยแล้วกดใหม่ ทำจนกว่าจะได้ยินเสียงแค่เพียงตำแหน่งเดิมตำแหน่งเดียวที่เครื่องจะมีเสียง
6. ตำแหน่งเดียวที่พอจานตรวจจับไปหยุดละมีเสียง ตำแหน่งนั้นจะเป็นที่ที่วัตถุอยู่ใต้จานตรวจจับตรงกลาง
โน้ต : ถ้าปรับใหม่ซ้ำๆจนสัญญาณหายไปทั้งหมด ให้ลองออกจากพื้นที่นั้นสักพักแล้วกลับมาลองระบุตำแหน่งใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น
การชาร์จแบตเตอรี่ของเครื่อง QUEST X10 PRO
ใช้เวลาชาร์จจนเต็ม ประมาณ 4 ชั่วโมง
แบตเตอรี่ภายในของเครื่องนี้เป็นแบตเตอรี่แบบชาร์จได้ ทำจากลิเธียมกับโพโลเนียม จะช่วยคุณลดค่าใช้จ่ายในการซื้อแบตเตอรี่/ถ่านก้อน
ก่อนเริ่มต้นชาร์จแบต ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกหลังซื้อเครื่อง หรือชาร์จก่อนไปใช้งานในที่ค้นหาสมบัติ หรือชาร์จหลังจากกลับมาจากใช้งานแล้ว ควรเช็ดทำความสะอาดไอน้ำและฝุ่นออกจากส่วนควบคุมของเครื่องด้านหลังก่อน แล้วต่อสายชาร์จที่ปลายด้านนึงเป็น USB-C เข้ากับตัวรับที่ตัวเครื่อง และอีกด้านเข้ากับที่ชาร์จแบบ USB (ใช้ไฟบ้านหรือในรถยนต์ก็ได้) ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ช้าเร็วขึ้นอยู่กับว่าชาร์จกับไฟบ้านหรือชาร์จกับแบตเตอรี่ในรถยนต์
เคล็ดลับในการใช้งาน QUEST X10 PRO
> ถ้าสภาวะของพื้นดินเป็นดินที่มีแร่ธาตุสูง ให้ลดความไวต่อวัตถุลงและทำการกราวน์บาลานซ์ใหม่อีกรอบ
> ถ้าค้นหาวัตถุที่อยู่ตื้น ไม่น่าจะลงไปใต้ดินลึก เช่นพวกเครื่องประดับที่เพิ่งทำตกหายหรือพวกหลักหมุดต่างๆที่ผิวดิน ให้ใช้ความไวต่อวัตถุแค่ประมาณ 50 หรือน้อยกว่านั้น
> ถ้าค้นหาวัตถุในน้ำเค็มตามชายหาด พอขึ้นมาบนทรายเปียกควรปรับค่าความไวให้ต่ำลงเพื่อความเสถียร
> การที่ตั้งค่าความไวต่อวัตถุไว้สูงมากไม่ได้ดีเสมอไป ถ้าความไวมากแล้วเกิดเสียงกวนตลอดเวลา จะทำให้การฟังสัญญาณและประเมินวัตถุยากขึ้น โดยเฉพาะวัตถุที่อยู่ลึกจะทำให้สับสน
เคล็ดลับการดูแลเครื่อง QUEST X10 PRO
> อย่าพันสายเชื่อมจานตรวจจับไว้กับแกนจนแน่นเกินไป เพราะจะทำให้สายโดนดึงออกจากจาน หรือทำให้สายมีความเสียหาย การเชื่อมสัญญาณระหว่างหัวควบคุมและจานจะไม่ดี
> อย่าเก็บเครื่องไว้ในที่ที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน ป้องกันความเสื่อมเสียหาย เช่นอย่าเก็บไว้ในรถนานตลอดช่วงฤดูร้อน
> ไม่ใช้ของแข็งหรือของมีคมมาจิ้มหรือกดแป้นกดกับหน้าจอ หรือเอาหน้าจอไปกระทบกระทั่งกับวัตถุเหล่านั้น
> หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ตัวทำละลาย หรือยาฆ่าแมลง ในการทำความสะอาดเครื่องเพราะจะมีผลกับพวกพลาสติกของส่วนประกอบ
> หมุนฝาชาร์จแบตปิดให้แน่นป้องกันความเสียหายต่อช่องเสียบ และไม่ให้ความชื้น ฝุ่น ทราย เข้าไปข้างใน
> แค่ความชื้นเพียงเล็กน้อยที่เข้าสู่ใต้ฝาก็สามารถทำให้เกิดคราบหรือสนิมที่จะมีผลต่อการเชื่อมต่อไฟฟ้าเพื่อชาร์จ
> ถ้าจะเก็บเครื่องไว้เป็นเวลานานโดยไม่ใช้งาน ให้นำเครื่องออกมาชาร์จแบตทุกๆ 4 – 6 เดือน
ทำความสะอาดเครื่องตรวจจับโลหะเมื่อคุณถึงบ้าน
> ปิดเครื่องก่อนที่จะเช็ดทำความสะอาดเครื่อง Quest X10 Pro
> ใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดอ่อนๆ (น้ำยาล้างจานหรือน้ำยาซักผ้าแบบเจือจาง) แล้วบิดหมาดๆ ในการเช็ด
> จากนั้นเช็ดด้วยผ้าแห้ง สะอาด ไม่มีสีย้อมผ้า ปล่อยให้แห้งสนิทก่อนที่จะประกอบเก็บ
> ส่วนหน้าจอให้ใช้ผ้าสะอาดเช็ดเบาๆ
การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการใช้งานของ QUEST X10 PRO
| ปัญหา |
ทางแก้ไข |
| > เครื่องตรวจจับเปิดไม่ติด |
> เช็คว่ามีแบตเตอรีหรือไม่ > ถ้าแบตชาร์จจนเต็มแล้วยังเปิดไม่ติด ติดต่อผู้ขายให้ช่วยแก้ปัญหา |
| > เปิดเครื่องติดแต่ไม่มีการตรวจจับโลหะเลย |
> เช็คว่าจานตรวจจับเชื่อมกับส่วนควบคุมเครื่องดีแล้วหรือไม่ > เช็คความไวต่อการตรวจจับวัตถุ ถ้าความไวต่ำเกินไปจะทำให้ตรวจไม่พบวัตถุ |
| > บนหน้าจอแจ้งว่าเจอวัตถุ แต่ไม่มีเสียงเตือน |
> เช็คว่าตั้งระดับเสียงเตือนต่ำไปหรือไม่ > เช็คการเชื่อมต่อของหูฟัง > ถ้าลำโพงมีปัญหาเรื่องเสียงเตือนให้ลองเสียบหูฟัง |
| > มีเสียงเตือนหรือเสียงสัญญาณรบกวน |
> ให้ลดความไวต่อวัตถุ > เช็คการกราวน์บาลานซ์ เพราะพื้นดินบริเวณนั้นอาจจะมีประจุและแร่รบกวนมาก > ลองไปค้นหาในสถานที่ พื้นที่อื่น ตรงที่เกิดเสียงเยอะอาจจะมีวัตถุโลหอยู่เป็นจำนวนมาก |
> มีสัญญาณเสียงเตือนสูงหรือต่ำเกินไป |
> ยกจานตรวจจับขึ้นให้ห่างจากพื้นดินมากกว่าเดิม |
| > ค่า ID ของวัตถุเป้าหมายและโทนเสียงเหวี่ยงไปมา |
> อาจจะเพราะจานตรวจจับเคลื่อนผ่านบริเวณที่มีวัตถุหลายชนิด รวมกันอยู่อาจจะมีทั้งวัตถุเป้าหมายและเศษขยะโลหะอยู่ รวมกัน ให้เราลองแยกเอาขยะในบริเวณตรงนั้นออกไป หรือแยกวัตถุเป้าหมายหลายชนิดออกจากกัน |
***ถ้าแนวทางแก้ไขด้านบนไม่ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ให้กดรีเซตเครื่องให้กลับมาสู่การตั้งค่าเดิมจากโรงงาน โดยปิดเครื่องและกดปุ่มเปิดค้างไว้ 5 วินาที ไอคอนต่างๆบนหน้าจอจะกลับไปสู่ค่าเริ่มต้น
_________________________
แปลโดย : รวิชย์ หลงสวาสดิ์
ผู้เขียน : ปองวุฒิ เทศปัญ
thaispygadget