“มันมีรอยเท้าขนาดใหญ่ ตรงที่ผมเดินเครื่อง แล้วก็ได้ยินเสียงคืบคลานในพงหญ้าครับ” คุณเอ ได้กล่าวพลางหายใจหอบถี่ๆ
“เจออะไรมาหรอ” ผมได้เปิดคำถามด้วยความอยากรู้ “มันคือตะกวดครับ”
“ผมพูดเล่นๆว่าในป่านี้มีแหล่งน้ำ น่าจะเป็นที่อยู่อาศัยจระเข้นะ พอผมพูดจบเลยหันไปเห็นรอยเท้าขนาดใหญ่และได้ยินเสียงเหมือนตัวอะไรขยับครับเลยวิ่งออกมา” คุณคิวได้เอ่ยขึ้น
ผมตกใจไปชั่วขณะ แต่ก็ดีใจที่ไม่มีใครได้รับอันตรายจากสัตว์ป่า ไม่เพียงเท่านี้ในป่านี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของหมูป่าที่ดุร้าย......มันพร้อมพุ่งโจมตีเพื่อฝังเขี้ยวใส่คุณได้ทุกเมื่อ
เวลาผ่านไปค่อนข้างไว ในไม่กี่ชั่วโมงแสงแดดที่เคยสาดส่องก็เริ่มริบหรี่... ..พวกเรารู้ได้ทันทีว่า นี่เป็นเวลาที่ใกล้จะเข้าช่วงเย็นของวันนี้ พวกเราได้หยุดพักแล้วนั่งลงกลางป่าใหญ่เพื่อรอทีมมาเลเซียนั้นกลับมา และในที่สุด...............
ทีมมาเลเซียก็ได้เดินกลับมายังจุดนัดพบ หลายคนมาพร้อมกับของที่ขุดได้ออกมา ต่างคนต่าง ได้ของเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง บ้างก็เหรียญเก่า บ้างก็ได้ลูกปัดทองคำ เศษโลหะเงิน บ้างก็ได้ชิ้นส่วนเครื่องครัวยุคเก่า เศษเครื่องเงิน เครื่องประดับโบราณต่างๆ ฯ ผมคิดในใจว่าทีมนี้ฝีมือช่างไม่ธรรมดาจริงๆ
ลูกปัดทองคำ 2 ลูก และเหรียญเก่าผลงานของ คุณ Mohd Sabri Rahman
ปล.ในภาพได้ล้างทำความสะอาดแล้ว
ส่วนทีมไทยของเราก็ไม่น้อยหน้างัดของที่ขุดได้มาโชว์ เป็นเศษกระดิ่ง ระฆังโบราณ และเหรียญวิคตอเรียที่หายาก 3 เหรียญ ของบางอย่างมีขนาดใหญ่มากไป คงไม่เหมาะที่จะนำกลับ คงจะเข้าอีหรอบว่า
“กว่าจะไปถึงเป้าหมายนั้นอาจจะต้อง ‘แลก’ กับบางสิ่งและ ‘ทิ้ง’ บางอย่างไว้ข้างทางบ้าง เพราะทุกทางเลือกนั้นมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ”
เหรียญโบราณที่ขุดเจอโดยทีม Thaispy

หลังจากค้นหาเสร็จสิ้น...ก็ยังไม่มีใครเจอทองคำที่หลงเหลืออยู่ในที่แห่งนี้ พวกเราหวังว่าทองคำที่หลับใหล อยู่ในใต้ดินแห่งนี้จะถูกค้นพบเข้าสักวัน.......... พวกเราต่างพากันเก็บอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือขึ้นรถ จากนั้นก็ขับออกไปในจุดที่ Nicholas และ Joseph จอดรถทิ้งไว้ก่อนจะเข้ามาในป่า
ในเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจครั้งนี้ พวกเราจึงเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารร่วมกับทีมมาเลเซีย ก่อนจะแยกย้ายกันไป แต่ภารกิจเขาเรายังไม่หมดเพียงเท่านี้ ..........
พวกเรายังต้องเดินทางไปยัง Shop MineLab ของ คุณ Heidi ซึ่งเป็นร้านที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ MineLab ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก หลังจากที่เราใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าๆบนท้องถนนที่วิ่งลัดเลาะข้ามเขตป่าสวนปาล์มระยะทางอันยาวไกล ในที่สุด Nicholas และ Joseph ก็พาเรามาถึง ร้านคุณ Heidi พวกเราเดินเข้าไปในร้านและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคุณ Heidi .......
Shop MinLab ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
คุณ Heidi และ คุณโฮม
ภายในร้านแห่งนี้หากจะเปรียบเทียบคงเหมือนกับ Shop สินค้า Brand Name ขนาดย่อมที่มี กลิ่นอายคล้ายร้านทองผสมกับการออกแบบสไตล์คล้ายพิพิธภัณฑ์ แต่ถึงแม้จะถูกต้องรับอย่างดี อบอุ่น และเป็นกันเอง แต่คุณ Heidi ก็มีผลงาน ที่หามาได้นำให้เราดู แล้วพลางชี้นิ้วไปที่ตู้เก็บของที่เป็นกระจกใส
ว้าวว !! พวกเราอึ้งกับสิ่งที่เห็นภายในตู้กระจกที่มีแสงไฟดวงเล็กส่องอยู่ด้านใน เราพร้อมต่างหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปไว้
ชุดโลหะทองคำของ คุณ Heidi ผลงานจากการใช้เครื่องตรวจจับโลหะ
ภายในนั้นคือ ทองคำ แหวน เงินโบราณต่างๆ ที่คุณ Heidi นั้นหามาได้ หากจะประเมินค่าด้วย สายตาเป็นเงินคงตอบไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆโลหะมีค่าพวกนี้มีมูลค่าทางใจต่อพวกเขามาก ผมเห็นแววตาที่มีความสุขของคุณ Heidi และภรรยา ในขณะที่เขาทั้งสองกำลังชี้นิ้วให้เราดูผลงานที่เขาหามาได้ มันเป็นความสุขจากการใช้ตรวจจับโลหะที่ไม่สามารถตีเป็นมูลค่าเงินได้เลย
ผมนั่งดูผลงานของคุณ Heidi แล้วคิดในใจว่า น้อยคนที่จะเข้าใจสิ่งที่เรากำลังพยายามทำอยู่ จนกว่าเราจะทำสำเร็จ ทำให้บ่อยครั้งที่เรามักจะต้องเจอกับคำพูด คำดูถูก ต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนก็จะเข้าใจเอง
คุณ Heidi โชว์ผลงานด้วยแหวนทองนับสิบชิ้น
เราใช้เวลาอยู่ที่ร้าน คุณ Heidi ราวๆ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะอำลากัน และเดินทางกลับไปยังโรงแรมใน กัวลาลัมเปอร์ที่เราพัก ในระหว่างทางแสงพระอาทิตย์ที่เคยสว่างบนท้องฟ้าก็ได้ค่อยๆเลือนหายไป ความมืดนั้นก็เข้ามาแทนที่ เราต้องออกจากถนนเส้นนี้ก่อนจะที่ความมืดจะปกคลุม ในบริเวณที่เราเดินทางกลับนั้นมีทั้งหุบเขา ป่า ต้นไม้ใหญ่ ไม่มีไฟส่องถนน หนทาง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Nicholas และ Joseph เขาสามารถขับรถได้อย่างไร้กังวล แม้เส้นทางดังกล่าวจะมีแสงสว่างน้อยเพียงใดก็ตาม ในที่สุด............
Nicholas และ Joseph ก็ได้พาเรามาส่งในจุดที่ใกล้กับที่พัก คราวนี้พวกเราคงต้องอำลาคนขับรถร่วมทริปครั้งนี้กันจริงๆแล้ว Nicholas และ Joseph เขาทั้งคู่บริการขับรถและอำนวยความสะดวกให้เราจนถึงกิจกรรมสุดท้ายที่ทาง Minelab ได้กำหนดไว้ให้ จากนั้นพวกเขาก็ขับรถกลับไปยังที่บริษัท หมดหน้าที่พวกเขาทั้งคู่แล้ว พวกเราเดินเข้าไปจับมือและกล่าวขอบคุณสำหรับการเดินทางครั้งนี้
ถ่ายรูปหมู่กับ Minelab มาเลเซีย
พวกเรารวมถึงอาจารย์ปาป้าก็ได้เดินเข้าไปใน Fast Food บริเวณใกล้ๆกับจุดที่ทั้งคู่จอดรถส่งเรา กลิ่นหอมจากร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆโชยเตะจมูก พวกเราไม่รอช้าเดินเข้าไปท่ามกลางผู้ที่สัญจรไปมาที่ต่างพากันนั่งดื่ม และรับประทานอาหาร ร้านฟาสต์ฟู้ดโซนนี้เป็นมักจะเป็นอาหารของคนจีนเป็นส่วนใหญ่ เรานั่งลงและรับประทานอาหารก่อนที่จะกลับไปพักยังโรงแรม เพื่อรอเช้าวันถัดไป......
ตลาดอาหารจีนใกล้กับที่พัก
วันที่ 3
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเดินทางมายังกัวลาลัมเปอร์ และเป็นวันที่เราต้องกลับสู่ประเทศไทยในช่วงบ่าย เช้าวันนี้เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับการนอนหลับที่แสนสบายกับบรรยากาศยามเช้าที่รถยนต์ในเมืองไม่ขวักไขว่มากนัก เรามีนัดกับอาจารย์ปาป้าเพื่อรับประทานอาหารเช้าบริเวณใกล้กับที่พัก หลังจากที่เรารับประทานอาหารเสร็จแล้ว เราได้กลับมายังที่พักและเตรียมเก็บสัมภาระเพื่อที่จะเดินทางไปยังสนามบิน
เดินทางกลับสู่ประเทศไทย
อาจารย์ปาป้าได้เรียกรถเพื่อมารับเราที่หน้าโรงแรม เพื่อที่จะไปส่งยังสนามบิน เราทุกคนอำลาอาจารย์ปาป้าและหวังว่าจะได้พบกันในที่ไทยอีกเร็วๆนี้ ไม่นานเราเช็คอินที่สนามบินและขึ้นเครื่องกลับไปยังประเทศไทย เพื่อเตรียมพร้อมการทำงานกำลังจะเริ่มต้นในวันถัดไป เครื่องบินได้เคลื่อนที่ออกจากแผ่นดินประเทศมาเลเซียอย่างช้าๆ
และในที่สุดก็ได้ออกห่างไปไกลสุดลูกหูลูกตาพวกเราไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ..... เรื่อยๆ...... จนลับสายตา...........





thaispygadget