ใน ปี พ.ศ 2498 ชายหนุ่มนามว่า สจ๊วต เออร์บัคช์ ปรากฏตัวขึ้นที่หาดไมอามี่พร้อมกับเครื่องตรวจจับทุ่นระเบิดของกองทัพสหรัฐ มันส่งเสียงร้องปี๊บๆตลอดเวลาพร้อมกับการตื่นขึ้นของสมบัติมากมายที่หลับไหลใต้ผืนทราย ท่ามกลางความสนใจ และตื่นตะลึงของผู้คนมากมาย
นี่คือจุดเริ่มต้นของมหาเศรษฐีและนักล่าสมบัติที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก !!
ในปีพศ. 2496 ถึง 2498 สจ๊วต เป็นทหารรับใช้กองทัพสหรัฐ เขาถูกส่งไปประจำการที่ประเทศเกาหลี ตอนนั้นเอง เขามีความสนใจในเครื่องตรวจจับระเบิดของกองทัพ
เขาคิดว่ามันน่าจะนำไปใช้ทำอย่างอื่นได้
หลังจากเสร็จสิ้นการรับราชการทหารในปีพ.ศ 2498 สจ๊วตได้ซื้อเครื่องตรวจจับโลหะแบบที่ใช้ในกองทัพหลายเครื่องและออกไปเดินเล่นบนชายฝั่งไมอามี่บีช ฟลอริดา เขาค้นพบโลหะมีค่ามากมายและนั่นเป็นครั้งแรกที่มีคนเดินเครื่องตรวจจับโลหะที่นั่น ผู้คนบนชายหาดต่างตกตะลึงและเข้ามารุมล้อมเขา และถามว่าเป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะขอซื้อเครื่องดังกล่าวจากสจ๊วต
นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาขายมันได้ เพียงแค่เปิดท้ายรถและขายเครื่องตรวจจับระเบิดหลายเครื่องของเขา แนวคิดที่จะขายในเชิงพาณิชย์ให้กับพลเรือนจึงเริ่มขึ้นในปี พศ. 2498 ตั้งแต่พวกเรายังไม่เกิดด้วยซ้ำ
ในช่วงต้นทศวรรษที่ 60 เหรียญเงินสเปนซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าจากศตวรรษที่ 18 ถูกค้นพบเกลื่อนกลาดพร้อมกับเครื่องจักรของกองทัพสมัยโบราณบนชายหาดแห่งหนึ่งในฟลอริดา
ข้อมูลดังกล่าวได้รับการรายงานอย่างกว้างขวาง ทั้งออกโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความนิยมการออกล่าขุมทรัพย์ในอเมริกา ความต้องการเครื่องตรวจจับโลหะ เพิ่มขึ้นอย่างถล่มทลายในช่วงข้ามคืน ไม่เฉพาะการหาบนพื้นดินเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงการค้นหาสมบัติใต้น้ำด้วย
60 ปีผ่านไป Kellyco เป็นร้านเครื่องตรวจจับโลหะที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันเป็นร้านขนาดใหญ่ ในคลังสินค้าเต็มไปด้วยเครื่องตรวจจับโลหะหลายพันเครื่อง โชว์รูม พิพิธภัณฑ์ บูธสำหรับทดสอบ และมีศูนย์ซ่อมเป็นของตัวเอง
และแน่นอนเจ้าของผู้ก่อตั้งคือ สจ๊วต เออร์บัคช์
วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ 2560 สจ๊วตได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบที่บ้านของเขา
สจ๊วตเป็นทั้งทหารผ่านศึก เป็นทั้งพ่อ ทั้งคุณปู่ และเป็นผู้นำการบุกเบิกงานล่าสมบัติอย่างแท้จริง
เมื่อคุณอยากเดินตามเส้นทางนี้ ...