เจ้าชายนักแข่งรถ สู่นักล่าสมบัติแห่งอโยธยา...
ปลายปีพ.ศ 2497 หลังจากพระองค์ชายพีระ กลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่นาน พระองค์ทรงได้ลายแทงขุมทรัพย์อยุธยาจากพระภิกษุรูปหนึ่ง เป็นลายแทงสมุดข่อยโบราณ ซึ่งระบุว่ามีสมบัติโบราณถูกฝังไว้ ในอาณาจักรอยุธยา ถึง 303 แห่ง โดยเฉพาะบริเวณวัดกุฎีดาวมีถึง 16 แห่ง พร้อมทั้งระบุคำสาปแช่งเขียนกำกับเอาไว้ด้วย!!
พระองค์ทรงให้ผู้เชี่ยวชาญศึกษาอย่างจริงจังทำให้ทราบแน่ชัดว่าหน้าโบสถ์ร้างวัดกุฎีดาวเป็นที่ฝังขุมทรัพย์มหาสมบัติของพระเจ้าอู่ทอง พระองค์ชายพีระทรงตัดสินใจขุดค้นหาสมบัติอันล้ำค่าแห่งนี้ โดยขออนุญาตกรมศิลปากรตามกฎหมาย โดยมีข้อตกลงกันว่าหากพบสมบัติจะแบ่งให้รัฐ 90% และพระองค์ได้ 10% พระองค์ได้สั่งเครื่องหาแร่ทองใต้ดินรุ่น "ไมน์ ดีเทคเตอร์" ซึ่งเป็น #เครื่องตรวจจับโลหะ ที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้นแล้วเริ่มลงมือค้นหา เมื่อ เดือนธันวาคม พ.ศ 2503
ไมน์ ดีเทคเตอร์
วันแรกเครื่องไมน์ดีเทคเตอร์ ได้ส่งสัญญาณพบว่ามีบางอย่างถูกฝังอยู่เป็นจำนวนมาก พระองค์จึงทรงให้ทรงคนงาน 15 คนขุดลึกลงไป 6-7 ฟุต พบเพียงกระเบื้องโบราณทับถมอยู่จำนวนมาก วันนั้นพระองค์เดินทางกลับกรุงเทพฯ เมื่อตกกลางคืน มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น มีเสียงคล้ายคนขุดดินอยู่ด้านนอก พระองค์ทรงนึกว่ามีคนมาขโมยดินเพราะเพิ่งขุดสระน้ำใหม่ๆ จึงถือปืนออกไป แต่ก็ไม่พบอะไร เมื่อกลับมานอนใหม่ก็ได้ยินเสียงเช่นนั้นอีกหลายครั้ง...
เมื่อนำเรื่องนี้ไปเล่าให้คนรอบตัวฟังทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าจะเป็น "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" มาเตือน!! มีผู้รู้แนะนำให้ทำพิธีบวงสรวงแต่พระองค์เป็นนักเรียนจบจากเมืองนอกเป็นผู้มีความคิดสมัยใหม่จึงมิได้สนพระทัยที่จะทำพิธีใดๆ การขุดหาดำเนินต่อไปอีกหลายวันพบเพียงหม้อดินโบราณบรรจุกระดูกและพระพุทธรูปเล็กๆ 2 องค์
เย็นวันหนึ่งขนาดที่ทีมงานกำลังขุดค้นหาอยู่นั้น พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นชายคนหนึ่งเดินออกมาจากหลังโบสถ์ รูปร่างกำยำแต่งชุดทหารโบราณแต่ไม่มีหัว เดินไปทางพุ่มไม้ห่างออกไป 100 เมตร นอกจากพระองค์แล้วพระสหายชาวต่างประเทศ ที่มาร่วมค้นหาด้วยก็เห็นเช่นกัน เมื่อเล่าให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านก็ทูลว่าเป็นปู่โสม มาเตือนว่าเข้าใกล้สมบัติแล้ว ให้หยุดทำการค้นหา แต่พระองค์ก็มีได้สนพระทัยเพราะคิดว่าเจ้าของทรัพย์สินเสียชีวิตไปแล้วทรัพย์สมบัตินั้นควรเป็นของคนที่พบถึงจะมีสิทธิ์ครอบครอง จึงสั่งให้ค้นหาต่อ...
วันต่อมาพระองค์ได้ใช้ เครื่องตรวจจับโลหะ ไมน์ดีเทคเตอร์ ลงไปแกว่งก้นหลุมที่คนงานขุดเอาไว้ ปรากฏว่าเครื่องส่งสัญญาณแรงมากบ่งบอกว่าใกล้จะขุดถึงสมบัติแล้ว จึงส่งให้คนงานเร่งมือขุด
แต่สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น!!
มีเสียงดังครืดๆคล้ายบางอย่างกำลังเคลื่อนหนีไป แม้แต่คนงานในหลุมก็ตกใจรีบวิ่งหนีขึ้นมา!! แต่พระองค์ก็มิได้ทรงย่อท้อ ให้คนงานย้ายไปขุดตำแหน่งใหม่ที่เครื่องตรวจพบ แต่เมื่อขุดใกล้จะถึง ก็ได้ยินเสียงครืดครืด อีก เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คล้ายกับขุมสมบัติมหาศาลได้เคลื่อนที่หนีไป...
สุดท้ายจึงต้องหยุดการค้นหา
พระองค์นำเรื่องนี้ไปเล่าให้พระอาจารย์เกจิรูปหนึ่งฟัง ท่านหลับตานั่งทางในคุยกับชายที่ไม่มีศีรษะจึงทราบว่าเป็นเฝ้าสมบัติเป็นอดีตทหารของพระเจ้าอู่ทอง เขาบอกว่าองค์ชายไปรบกวนเขา ทรัพย์สมบัติใครจะได้ขึ้นไปนั้นขึ้นอยู่กับบุญบารมีและเขาก็ได้สาปแช่งทีมค้นหาเอาไว้แล้ว!!
หลังจากนั้นไม่นานทีมค้นหาก็เจอเรื่องลึกลับ พระสหายชาวต่างประเทศที่ร่วมทีม คนหนึ่งเสียชีวิตปริศนา ส่วนอีกคนหายสาบสูญ และหลายคนประสบแต่เรื่องไม่ดี
ในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ 2504 หลังจากยุติการล่าสมบัติวัดกุฎีดาวไปเกือบ 1 ปี พระองค์ได้เสด็จไปประทานสัมภาษณ์ที่สมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทยว่า จากที่ไม่เชื่อเรื่องเร้นลับภูตผีปีศาจ แต่ตอนนี้ เชื่ออย่างสนิทใจ เพราะได้ประสบพบเจอ เรื่องลึกลับนี้มาด้วยพระองค์เอง
สำหรับพระองค์ชายพีระมีชื่อเต็มว่า พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าพีรพงศ์ภานุเดช เป็นพระราชนัดดา(หลาน) ของรัชกาลที่4 และมีรัชกาลที่5 เป็นพระปิตุลา (ลุง) ซึ่งพระองค์มีชื่อเสียงมากเพราะเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งรถเวิลด์กรังปรีซ์ ในยุโรปหลายครั้ง และทรงได้รับการบรรจุพระนามในหอเกียรติยศของสมาคมนักแข่งรถอังกฤษ
__________________________
ผู้เขียน : โฮม ไทยสปาย (HOME THAISPY)