โหมดดำน้ำตื่นๆ (ลึก 0-10 เมตร)
การเปิดปิด ปกติ : กดปุ่มเปิดปิดครั้งนึงเพื่อเปิด กดอีกครั้งเพื่อปิด
การเปิดปิด เพื่อตั้งค่าใหม่ : กดปุ่มเปิดปิดครั้งนึงเพื่อเปิด กดค้างไว้ 1 วินาทีเพื่อปิด
ความไวของการตรวจจับ (Sensitivity)
เมื่อเปิดเครื่องแล้ว กดปุ่มโหมด (M) ค้างไว้ แล้วกดปุ่มเปิดปิด เพื่อเปลี่ยนระดับความไวของการตรวจจับ จาก 1-4 (4 มากสุด) แต่ละระดับจะมีเสียงเตือนบี๊บบบยาวขึ้นเรื่อยๆ
การเตือนเมื่อตรวจพบโลหะ (Alarm)
เมื่อเปิดเครื่องแล้ว กดปุ่มโหมด(M)เพื่อเปลี่ยนโหมดการเตือน (มี 3 โหมด คือ เสียงเตือน, สั่น, ทั้งเสียงและสั่น)
เมื่อเปิดเครื่องไว้ แต่ไม่ได้ใช้งานหรือวางไว้เป็นเวลา 3 นาที จะมีการเตือนเป็นเสียงบี๊บต่อกันด้วยความถี่คงที่ เพื่อเตือนให้ผู้ใช้ปิดเครื่องหรือหยิบมาใช้ต่อ
หากหลังจากการเตือนเป็นเวลา 3 นาทีแล้วเรายังไม่ปิดหรือเรายังไม่หยิบมาใช้ เครื่องจะปิดเองอัตโนมัติเพื่อประหยัดแบตเตอรี่
โปรแกรมโหมดไฟต่างๆ (Programing)
เมื่อเปิดเครื่องแล้ว กดปุ่มโหมด (M) ค้างไว้ 2.5 วินาที เพื่อเข้าสู่โหมดควบคุมหลอดไฟ LED
เมื่อทั้งหลอดไฟLED และไฟฉายทำงาน กดปุ่มโหมดเพื่อเปลี่ยนไปยังโหมดไฟอื่น มี 4 โหมด (หลอดไฟอย่างเดียว, ไฟฉายอย่างเดียว, ปิดทั้งสองไฟ, เปิดทั้งสองไฟ (ตามรูปเลยครับ))
เปิด/ปิดฟังก์ชั่นการปรับไฟนี้ด้วยการกดปุ่มเปิดปิดเครื่อง (ที่บอกไปในหน้าแรกว่ากดปุ่มเปิดปิดค้างไว้ 1 วิเพื่อตั้งค่าใหม่)
การค้นหาวัตถุ มีสองอย่างหลักๆคือการกวาดเพื่อสแกนหา (scanning) กับการระบุตำแหน่ง (pinpoint)
- -กวาดจานตรวจจับไปมาในบริเวณนั้นเพื่อค้นหาโลหะ
- -เราสามารถใช้ด้านข้างของวงตรวจจับในการระบุตำแหน่งของวัตถุเป้าหมายได้
- -การปรับฟังก์ชั่นการตั้งค่าใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อการ ground balance ตัดสัญญาณรบกวนจากดินในสภาวะที่พื้นบริเวณนั้นมีแร่ธาตุอยู่เยอะ หรือเพื่อการสโคปตำแหน่งของวัตถุให้แคบลงและตรวจจับง่ายขึ้น กลุ่มสินค้า Xpointer จะทำงานด้วยเทคโนโลยีเหนี่ยวนำ pulse คือ จะเป็นตัวปล่อยสัญญาณลงไปที่พื้นและในขณะเดียวกันก็จะสร้างสนามการรับสัญญาณที่สะท้อนกลับมา ด้วยวงขดลวดอันเดียวกัน เทคโนโลยีนี้มักจะไม่เกิดความผิดพลาดจากน้ำเค็มที่มีเกลือมารบกวน หรือสภาวะที่พื้นมีแร่ธาตุเยอะมาก คุณสามารถใช้ฟังก์ชั่นนี้เพื่อเข้าหาวัตถุเป้าหมายได้ง่ายกว่า แค่กดปุ่มเปิดปิดหนึ่งครั้งเพื่อปิดเสียงเตือนและขยับให้เครื่องเคลื่อนที่จนได้ยินเสียงเตือนวัตถุอีก เมื่อเราต้องการคืนการตั้งค่ากลับสู่โหมดปกติก็ทำได้เพียงปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่
แบตเตอรี่ต่ำ
เมื่อไฟฉายกระพริบที่ความถี่คงที่ นั่นหมายความว่าแบตเตอรี่ต่ำ ต้องการการชาร์จ เราสามารถใช้งานต่อได้แต่ประสิทธิภาพความไวต่อวัตถุของเครื่องจะต่ำลง
การถอดฝาปิดแบตเตอรี่เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ ให้จับและหมุนฝาทวนเข็มนาฬิกาเพื่อถอดออก สวมและหมุนตามเข็มเพื่อทำให้ฝาแน่น ระวังการปีนเกลียวหรืออย่าหมุนแน่นด้วยวิธีที่ผิดจนฝาได้รับความเสียหาย แตกหัก เพราะจะทำให้น้ำซึมเข้าช่องแบตเตอรี่ได้
การชาร์จแบตเตอรี่ (Recharging)
- -สายชาร์จจะต่อเข้าไปชาร์จในช่องแบตเตอรี่ แนะนำให้ใช้หัวชาร์จกับปลั๊กชาร์จที่มีคุณภาพดีในการชาร์จ จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 2-3 ชั่วโมงจึงเต็ม
- -สามารถต่อ USB กับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ้คเพื่อชาร์จได้ แต่จะใช้เวลาชาร์จนานกว่าเพราะมีกระแสไฟเข้าต่ำกว่า
- -หลอดไฟ LED จะหยุดกระพริบและสว่างอย่างคงที่เมื่อชาร์จเต็มแล้ว สามารถถอดสายชาร์จออกได้
การดูแลรักษา
การทำความสะอาดเครื่อง
1. ใช้การล้างผ่านก๊อกน้ำไหลหรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ประกอบกับน้ำยาทำความสะอาดอ่อนๆ
2. เช็ดด้วยผ้าหมาดๆ
3. ผึ่งให้แห้ง สนิท
หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่ทำปฏิกิริยากับพลาสติก ในการทำความสะอาด เพราะจะทำให้โครงสร้างของเครื่องเสียหาย
เครื่องตรวจจับโลหะนี้กันน้ำที่ระดับความลึก 60 เมตร/200 ฟุต สามารถทนแรงดันของน้ำที่ความลึกดังกล่าวได้ 30 นาที หลังการนำลงไปใช้งานในน้ำขึ้นมาให้ทำการเช็ดและผึ่งให้แห้งก่อนที่จะชาร์จหรือใช้งานครั้งต่อไป
ไม่ควรเก็บเครื่องไว้ในสภาวะแวดล้อมที่อากาศร้อนจัดหรือหนาวจัดเพราะจะทำให้เครื่องเสียหายถาวรได้
แหวนยางรองตรงปลอกแบตเตอรี่ (O-ring)
ทำความสะอาดฝุ่นทรายและเศษต่างๆที่ติดอยู่ที่วงตรงปลอกนี้ เพราะถ้ามีเศษคาอยู่อาจทำให้เราปิดฝาแบตเตอรี่ได้ไม่สนิทและทำให้น้ำซึมเข้าเครื่องได้
ใช้ซิลิโคนแว๊กซ์ทาเคลือบวงนี้ได้โดยตรง
และ วงนี้จะเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ ควรเปลี่ยนวงตรงปลอกนี้ปีละครั้ง
---------------------------------------
---------------------------------------
โหมดดำน้ำลึก (ลึก 10-60 เมตร)
กดปุ่มเปิดปิดและปุ่มโหมด ค้างไว้ประมาณ 2 วิ เพื่อเข้าสู่โหมดดำน้ำลึก จะมีแสงสีแดงกระพริบประมาณ 5 ครั้งและสั่น กดปุ่มโหมด(M) 3 ครั้งติดกันเพื่อกลับสู่โหมดน้ำตื้น
การควบคุมโหมดดำน้ำลึก (Dive mode control)
เมื่อเครื่องเข้าสู่โหมดน้ำลึก เครื่องจะสแตนบายโดยมีไฟกระพริบ แต่ไม่ตรวจจับโลหะ ให้กลับเครื่องขึ้นลง 3 รอบเพื่อกระตุ้นโหมดการตรวจจับ เครื่องจะพร้อมใช้งาน และหลอดไฟสีแดงจะกระพริบสองครั้งทุกๆ 3 วินาที เครื่องจะพร้อมค้นหาวัตถุ
หากต้องการให้เครื่องเข้าสุ่โหมดสแตนบายอีกครั้ง ให้ตั้งเครื่องชี้ขึ้นค้างไว้เป็นเวลา 5 วินาทีเพื่อกลับสู่โหมดสแตนบาย เซนเซอร์ตรวจจับจะหยุดทำงาน หลอดไฟสีแดงจะกระพริบครั้งเดียวทุกๆ 3 วินาที เครื่องยังคงเปิดใช้งานจนกว่าเราจะปิดเครื่อง
สิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ไม่ควรทำ
- -พึงแน่ใจว่าปิดฝาปิดแบตเตอรี่แน่นแล้วก่อนที่จะลงไปใช้เครื่องในน้ำ และเมื่อจะเปิดช่องใส่แบตเตอรี่มือก็ควรสะอาดเพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าไปในช่อง
- -ควรชาร์จให้แบตเตอรี่เต็มอยู่เสมอเมื่อไม่ใช้งานเครื่อง
- -ล้างเครื่องด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งหลังจากใช้งานและเช็ดก่อนเก็บ
- -หลังทำความสะอาด ควรเคลือบแว็กซ์ซิลิโคนที่วงตรงปลอกแบตเตอรี่ (O-ring) ด้วย
- -เปิดฝาแบตเตอรี่ด้วยมือที่สะอาดเท่านั้น
- -ไม่ควรแช่เครื่องทิ้งไว้ร่วมกับสิ่งของอื่นหรือทำความสะอาดพร้อมอย่างอื่น เพราะอย่างอื่นที่นำมาทำความสะอาดด้วยอาจจะก่อความเสียหายแก่เครื่องตรวจจับเราได้
กลับไปหน้ารายละเอียดสินค้า คลิก |