ค่ำวันที่ 17 กรกฏาคา 2549 ขณะที่พระมหาสุริยา สุจิตโต พระลูกวัดอรัญญเขต บ้านหนองภัยศูนย์ ต.หนองภัยศูนย์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู สรงน้ำเสร็จและเดินออกไปเปิดสวิตช์ไฟฟ้าหน้ากุฏิ ได้มีพระวัดเดียวกันชื่อพระเศรษฐา เมืองนก อายุ 21 ปี พระลูกวัดที่เพิ่งเข้ามาอยู่จำพรรษาที่วัดได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ลอบทำร้ายใช้ท่อนไม้ตีศีรษะแตก จึงเกิดการต่อสู้พร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ทำให้พระเศรษฐาตกใจหลบหนีไป จึงเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู จากนั้นไปพบแพทย์ทำแผลแล้วกลับเข้าวัดนอนพักผ่อน เนื่องจากยังมีอาการเจ็บบริเวณบาดแผล
จนกระทั่งเช้าของวันใหม่ พระมหาสุริยาได้โทรศัพท์ไปหาพระจงกล สุมโน อายุ 55 ปี เจ้าอาวาสวัดหลายครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้รู้สึกเอะใจตามไปหาที่กุฏิ พบว่าประตูปิดแต่ไม่ได้ล็อก เมื่อเปิดเข้าไปภายในพบว่าประตูห้องน้ำถูกล็อกจากด้านใน ตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ จึงใช้กุญแจสำรองไขเปิดประตูเข้าไปดู ปรากฏว่าพระจงกลมรณภาพอยู่ในลักษณะนุ่งสบง ไม่ห่มจีวร มีเสื่อปูรองศพและหมอนหนุนศีรษะ มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งบริเวณใบหน้าดั้งจมูกยุบ
บริเวณพื้นห้องโถงของกุฏิ พบคราบเลือดและร่องรอยการล้างทำความสะอาด กับซองบุหรี่วางอยู่บนโซฟา ข้าวของเครื่องใช้ยังอยู่ครบ
ห่างจากกุฏิเจ้าอาวาสออกไปทางทิศตะวันออกประมาณ 80 เมตร พบศพพระเกตุ สุวัตโต อายุ 56 ปี พระลูกวัด นอนคว่ำหน้าจมน้ำอยู่ในโอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่วางอยู่หลังกุฏิร้าง โดยมีฝาสังกะสีครอบปากโอ่ง เมื่อนำศพขึ้นมาพบบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งบริเวณท้ายทอยเป็นแผลฉกรรจ์
ภายในเพิงพักที่อยู่ใกล้กุฏิร้าง พบคราบเลือด คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายลงมือสังหารพระเกตุมรณภาพ ก่อนจะนำศพไปยัดใส่โอ่งน้ำอำพรางคดี
แพทย์ระบุว่าพระทั้งสองเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 15 ชั่วโมง
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พระมหาสุริยาถูกพระเศรษฐา ใช้ไม่ตีจนได้รับบาดเจ็บ
พระเศรษฐาจึงน่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้...
ก่อนหน้าจะเกิดเหตุประมาณ 2 วัน พระจงกลได้เรียกพระเศรษฐาไปต่อว่าอย่างรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องที่พระเศรษฐาทำ ก๊อดน้ำหัก และใช้ท่อนไม้ขว้างไก่วัดตาย 1 ตัว
นอกจากนี้พระเศรษฐายังถูกพระลูกวัดรุมตำหนิที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ไม่ช่วยทำงานภายในวัด
ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุทำให้พระเศรษฐาผูกใจเจ็บที่ถูกเจ้าอาวาส ต่อว่า และยังถูกพระลูกวัดรุมตำหนิ จนกลายเป็นเพลิงแค้น บุกไปพบพระจงกลเพื่อเคลียร์ปัญหาคาใจ แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้พระเศรษฐาโกรธ ใช้ของแข็งทุบตีพระจงกลมรณภาพ แล้วอุ้มศพไปวางในห้องน้ำปิดล็อกประตู เช็ดถูพื้นทำความสะอาดคราบเลือดบริเวณห้องโถงเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย ก่อนจะบุกไปสังหารพระเกตุ ซึ่งนอนเล่นอยู่ในเพิงพักมรณภาพอีกรูป แล้วอุ้มศพยัดโอ่งน้ำอำพรางคดี
จากนั้นก็บุกไปทำร้ายพระมหาสุริยาหมายจะฆ่าเป็นศพที่สาม...!!!
แต่ขณะลงมือพระมหาสุริยาฮึดสู้และตะโกนเรียกให้ชาวบ้านช่วย ทำให้พระเศรษฐาตกใจหลบหนีไป
ขณะที่พระเศรษฐาลงมือนั้น พระลูกวัดและสามเณรอีก 2 รูปออกไปทำธุระนอกวัด ไม่เช่นนั้นอาจจะมีพระหรือเณรเสียชีวิตเพิ่มอีกก็เป็นได้
ประวัติพระเศรษฐา หรือ นายเศรษฐา เมืองนก พื้นเพเดิมเป็นคน จ.นครพนม บวชที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น มาจำพรรษาที่วัดอรัญญเขตเมื่อวันที่ 10 ก.ค.49 ก่อนเกิดเหตุเพียงหนึ่งอาทิตย์
ต่อมาเวลา 19.00 น. วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.เมืองหนองบัวลำภู ร่วมกับ พ.ต.ท.นนทจิต บุดดีคำ พงส.สบ.3 ทำหน้าที่สารวัตรเวร สภ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เข้าจับกุมพระเศรษฐาได้ที่วัดบ้านหนองแซงสร้อย ต.น้ำพ่น อ.หนองวัวซอ
ซึ่งพระเศรษฐายังอยู่ในชุดนุ่งห่มสบงจีวรพระตามปกติ
พระเศรษฐาให้การรับสารภาพว่าได้สังหารพระเกตุก่อนขณะที่นอนจำวัดอยู่ที่เพิง พัก โดยใช้ไม้กระหน่ำตีจนตายคาที่ แล้วอุ้มศพไปไว้ในโอ่งน้ำ พร้อมเก็บเสื่อเก็บหมอนไปซ่อนไว้ที่เล้าไก่
จากนั้นก็ตรงไปฆ่าพระจงกล เจ้าอาวาส ขณะที่กำลังนอนอยู่หน้าโซฟา โดยใช้ค้อนในกุฏิของพระจงกลทุบ
แล้วก็บุกไปใช้ไม้ตีพระมหาสุริยา โดยมีเป้าหมายจะฆ่าพระและเณรที่มีอยู่ให้หมดทั้งวัด
แต่พระมหาสุริยาต่อสู้และตะโกนเรียกให้ชาวบ้านช่วยเสียงดัง ทำให้ต้องรีบหนีก่อนที่ชาวบ้านจะมาถึง
ทั้งนี้พระเศรษฐายอมรับว่าโกรธแค้นพระผู้ตาย เนื่องจากเจ้าอาวาสดุด่าเรื่องตีไก่ตาย ทำก๊อกน้ำแตกหัก และไม่ช่วยงานภายในวัด
อีกทั้งแค้นที่โดนเจ้าอาวาสไล่ตะเพิดให้ไปผูกคอตาย
หลังก่อเหตุเสร็จ พระเศรษฐาเดินหนีข้ามเขาไปที่วัดบ้านหนองแซงสร้อย จ.อุดรธานี
จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมได้ภายในวันเดียวเท่านั้น
หมดสิ้นมารศาสนาไปอีกหนึ่งคน
ขอบคุณข้อมูล ยุทธ บางขวาง
thaispygadget