หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินว่าเครื่อง ตรวจจับโลหะนั้น บางเครื่อง ก็สามารถทำกราวบาล้านซ์ ได้ บางเครื่องก็ไม่สามารถทำได้ แถมเครื่องที่สามารถทำได้ ก็มักจะมีราคาแพงกว่า แล้ว กราวบาล้านซ์คืออะไร มีไว้เพื่อทำอะไร คำตอบของเรื่องนี้เราคงต้องย้อนกลับไปดูถึงเรื่องของ แร่ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งแร่พวกนี้ที่เราจะพูดถึง ก็คือแร่ในกลุ่มของ โลหะ ที่สามารถตอบสนองกับสนามแม่เหล็กได้ โดยเฉพาะในแร่ของกลุ่มแมกนีไทต์, แมกเฮมไมท์ และเกลือ
หรือแร่แม่เหล็ก เป็นแร่ที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย โดยมีมาก จ.ลพบุรี นครสวรรค์ เลย ชลบุรี ระยอง กระบี่ และนครศรีธรรมราช มักจะพบอยู่ในรูปของผงละเอียด ถลุงนำมาใช้งานได้หลากหลาย
แมกเฮมไมท์ หรือ เฮมาไทต์
แร่เหล็กแดง พบเป็นแผ่นเกล็ดบางๆ จนกระทั่งถึงก้อนใหญ่ สามารถพบได้ทั่วประเทศไทย พบมากที่ จ.ลพบุรี นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ปราจีนบุรี สุโขทัย เชียงใหม่ เลย ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช และ สุราษฎร์ธานี เป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมเหล็ก และมีมากในดินลูกรัง และดินแม่รัง
เกลือ หรือ โซเดียม
เกลือรสชาดเค็มที่เรารู้จักกันดี ต้องมีกันทุกบ้าน ก็เป็นศัตรูตัวฉกาจต่อเครื่องตรวจโลหะเช่นเดียวกัน แต่เกลือนั้นต่างออกไปจากแร่ชนิดอื่นเล็กน้อย ตรงที่เมื่อมันอยู่ในรูปของแข็งจะไม่นำไฟฟ้าและไม่ตอบสนองต่อสนามแม่เหล็ก แต่เมื่อมันละลายอยู่ในรูปของเหลว เมื่อนั้นมันจะนำไฟฟ้าและตอบสนองต่อสนามแม่เหล็กเป็นอย่างดี
อย่างที่เราทราบกันดีจากบทก่อนหน้าว่า วัตถุโลหะจะมีผลทำให้สนามแม่เหล็กนั้นบิดเพี้ยนไป และเครื่องจะนำเอาความบิดเพี้ยนที่เกิดขึ้นนั้นไปแปลงสัญญาณตีค่า เช่นเดียวกับแร่ บริเวณที่มีแร่โลหะอยู่อย่างเข้มข้น จะส่งผลให้สนามแม่เหล็กที่ถูกส่งออกจากเครื่องตรวจโลหะนั้นบิดเบี้ยวไป และสัญญาณก็ไม่ทะลุทะลวงได้เท่าที่ควร อย่างที่กล่าวไว้ในบทก่อนว่าเครื่องตรวจโลหะนั้นหัวใจสำคัญก็คือการจัดวางสนามแม่เหล็กของภาคส่งและภาครับให้สมดุลกัน เครื่องถึงจะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และในเครื่องที่มีภาครับค่อนข้างไว ก็จะยิ่งเสียเปรียบต่อการถูกรบกวนจากสายแร่ที่มีอยู่ในธรรมชาติผลที่เกิดก็คือสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในภาครับหรือที่เรียกว่าเครื่องลั่นนั้นเอง
ภาพจำลองสนามแม่เหล็กที่ผิดรูปจากอิทธิพลของแร่
ดังนั้นการเลือกใช้จานค้นหา และการเลือกใช้เครื่องที่สามารถทำการกำจัดการรบกวนจากแร่ จึงมีผลค่อนข้างมาก ในท้องตลาดบ้านเรา อาจจะพอมองเห็นได้ว่า ปัจจุบันมีจานค้นหาเพียงสองแบบให้เลือกใช้ แบบแรกคือ Concentric และแบบ Double-D อย่างที่ได้รับทราบจากเรื่องของบทของจานค้นหาว่าจานค้นหาที่มีรูปทรงสมมาตรจะสามารถรับมือกับสัญญาณแร่ได้ดี ในขณะที่การค้นหาแบบไม่สมมาตร รับมือกับแร่ได้ค่อนข้างไม่ดี ยกตัวอย่างเช่น จานค้นหาแบบ Double O จะรับมือกับสายรายได้ค่อนข้างดีเพราะรูปของสนามแม่เหล็กทั้งภาครับและภาคส่งต่าง สมมาตรกันเป็นรูปวงกลมเท่าๆกันทั้งคู่ ในจานประเภท Concentric มีสนามแม่เหล็กรูปวงกลมใหญ่และเล็กซ้อนกันอยู่ ไม่สามาตรกัน ส่วนในจานดับเบิ้ลดีนั้น จะสังเกตได้ว่าเป็นรูปทรงที่ไม่มีสมมาตร แต่อย่างน้อย ทั้งภาครับและภาคส่งมีรูปร่างที่เหมือนกัน จึงทำให้รับมือกับแร่ได้ดีกว่า Concentric (แต่ไม่ดีที่สุด)
รูปร่างสนามแม่เหล็กที่ถูกปล่อยออกมาจาก จานค้นหา ทั้งสองชนิด
อีกทั้งการเลือกใช้เครื่องที่มี ตัวเลือกสำหรับการทำ กราวน์บาล้านซ์ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างมาก ที่ทำให้เครื่องนั้นสามารถ ค้นหาวัตถุโลหะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งแต่ละยี่ห้อ แต่ละค่ายก็จะมีเทคนิคหรือชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป เช่น GEB, Ground Cancellation, Ground balance, Ground grab เป็นต้น ซึ่งก็คือการกำจัดการรบกวนจากสายแร่ออกไปนั่นเอง (แต่ความลึกยังคงลดลง) ทั้งอาจจะยังมีเทคนิคที่แตกต่างออกไปตามแต่ละค่าย ซึ่งสามารถหาอ่านได้จาก ข้อมูลสิทธิบัตรจดทะเบียนของแต่ละยี่ห้อ ซึ่งในตอนต่อๆไปเราจะพูดถึง เทคโนโลยี ของเครื่องตรวจจับโลหะอีกแบบที่สามารถข้ามการรบกวนของสายแร่ ที่เรียกว่า PI หรือ Pulse induction
อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเครื่องตรวจจับโลหะ
บทความเกี่ยวกับ เครื่อง Quest
บทความเกี่ยวกับ เครื่อง Equinox
บทความเกี่ยวกับ เครื่อง Garrett
เรื่องเล่านักล่าสมบัติ เปิดกรุสมบัติสุสานป่าพม่า