
เมื่ออาชญากรฝันร้าย คนอื่นก็อาจเดือดร้อนได้เหมือนกัน
อีกบทหนึ่งจากหนังสือ "เรื่องจริงในเรือนจำ"
ฝันร้ายของนักฆ่า
การทำงานของเจ้าหน้าที่เรือนจำหรือที่เรียกกันว่า “ผู้คุม” นั้น คนทั่วไปอาจจะคิดว่าเป็นงานสบาย แค่นั่งหรือเดินดูแลชี้นิ้วให้นักโทษทำงานตามคำสั่ง เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็จะทำร้ายทุบตีนักโทษได้ตามอำเภอใจ ซึ่งความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะนักโทษทุกคนที่อยู่ในเรือนจำต่างก็มีความคิด มีความเป็นคน และส่วนใหญ่มีการศึกษาที่ดีก่อนที่จะมาติดคุก
ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่จะไปทำร้ายร่างกายนักโทษอย่างไม่มีเหตุผล ย่อมเป็นไปได้ยากมาก อีกทั้งระเบียบปฏิบัติของทุกเรือนจำก็ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ทำร้ายนักโทษ อย่างเด็ดขาด ซึ่งถ้าใครฝ่าฝืนทำร้ายทุบตีนักโทษเมื่อใด ก็จะต้องถูกลงโทษทางวินัยขั้นร้ายแรง และนักโทษเองก็ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่หาเรื่องทำร้ายร่างกายได้อย่างง่ายๆ ถ้ามีการทำร้ายร่างกายนักโทษเกิดขึ้นอย่างไม่เป็นธรรม พวกนักโทษเองและญาติของนักโทษก็จะร้องเรียนเพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ผู้ นั้นทันที
นักโทษทุกคนไม่มีใครเต็มใจอยากที่จะติดคุก ต่างก็อยากออกไปให้พ้นจากเรือนจำเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยตัวพ้นโทษออกไปอย่างถูกต้อง หรือต้องใช้กำลังแหกหักฝ่าด่านผู้คุมออกไปก็ตาม แต่การกระทำดังกล่าวไม่สามารถจะกระทำได้อย่างง่ายๆ ดังนั้นความเครียดจึงเกิดขึ้นได้กับนักโทษทุกคนตลอดเวลา การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคนในเรือนจำจึงต้องเสี่ยงอันตรายนับตั้งแต่ก้าว แรกที่เยียบย่างเข้าสู่ประตูเรือนจำ จนกระทั่งออกเวรก้าวพ้นไปจากประตูเรือนจำแล้ว
คำว่า “นักโทษ” ก็รู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงคนที่กระทำความผิดต่อกฎหมายของบ้านเมืองอย่าง ร้ายแรง และถูกศาลตัดสินให้ต้องเข้ามาติดคุกอยู่ภายในเรือนจำ ซึ่งการก่อคดีความผิดนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่ลักเล็กขโมยน้อย ตีหัวชาวบ้าน ทำร้ายร่างกาย ไปจนถึงปล้นฆ่า มือปืนรับจ้าง และคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
นักโทษบางคนมีความโหดเหี้ยมติดเป็นนิสัยประจำตัว ชนิดว่าใครจะทำให้เจ็บใจไม่ได้อย่างเด็ดขาด ทั้งที่ตัวเองต้องเข้ามารับโทษอยู่ในคุกแล้ว ถ้าถูกทำให้เจ็บใจเมื่อไร นักโทษประเภทนี้จะต้องหาโอกาสล้างแค้นผู้ที่กระทำจนได้ โดยไม่สนใจว่าจะเป็นนักโทษด้วยกันเอง หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของทางเรือนจำก็ตาม ซึ่งบางครั้งรุนแรงถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต นักโทษบางคนไม่ยอมให้ใครมารังแกแม้กระทั่งในความฝัน
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ฝ่ายควบคุมแดน ๒ ซึ่งตามปกติแล้วในแต่ละแดนจะต้องเปิดตึกขังเวลา ๐๖.๐๐ น. เพื่อนำนักโทษลงมาตรวจนับยอดและประกอบกิจวัตรประจำวัน โดยทางแดนจะจัดเจ้าหน้าที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาทำการเปิดตึกขังทุกเช้า ซึ่งนักโทษทุกคนจะต้องลุกจากที่นอนและลงจากตึกขังทั้งหมด ไม่ว่าจะยังนอนหลับฝันดีหรือฝันร้ายอยู่ก็ตาม ยกเว้นนักโทษที่มีคำสั่งให้ขังไว้ในห้องขังเพื่อควบคุมความประพฤติ และพวกนักโทษประหารชีวิตเท่านั้นที่ไม่ต้องลงจากตึกขังในช่วงเช้ามืด
ในวันนั้นเจ้าหน้าที่ประจำแดน ๒ ประมาณ ๔-๕ นาย ได้มาทำการเปิดตึกขังแต่เช้าตามหน้าที่ซึ่งได้ถูกจัดเวรไว้ตามปกติ เมื่อนักโทษทุกคนลงจากตึกขังหมดแล้ว พร้อมกับทำการตรวจนับยอดจนครบเป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่นายหนึ่งได้หันหลังกลับเพื่อเดินไปที่หน่วยงานซึ่งตนควบคุมดูแล อยู่ แต่ปรากฏว่ามีนักโทษคนหนึ่งซึ่งต้องโทษในคดีฆ่าคนตาย ได้คว้าแท่งเหล็กแป๊ปที่วางอยู่ข้างกองเลี้ยงอาหารประจำแดน หวดเข้าที่ศีรษะของเจ้าหน้าที่นายนั้นอย่างแรง จนศีรษะแตกเลือดไหลอาบทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น
เจ้าหน้าที่นายอื่นและนักโทษที่เห็นเหตุการณ์จึงกรูกันเข้าช่วยเหลือเจ้า หน้าที่นายนั้น และช่วยกันระงับเหตุก่อนที่นักโทษคนนี้จะตีซ้ำลงไป ในระหว่างที่กำลังยื้อแย่งเหล็กแป๊ปกันอยู่นั้น นักโทษคนนี้พยายามดิ้นรนต่อสู้และร่ำร้องว่า “ปล่อยกู ปล่อยกู กูจะต้องฆ่ามัน มันทำกูก่อน กูจะต้องเอาคืน ปล่อยกู กูจะต้องฆ่ามันให้ได้... ปล่อย”
เมื่อแย่งเหล็กแป๊ปและทำการควบคุมตัวนักโทษคนนี้ได้แล้ว จึงรีบช่วยกันนำเจ้าหน้าที่นายนี้ส่งเข้ารับการพยาบาลเบื้องต้นที่สถาน พยาบาลของทางเรือนจำโดยด่วน ปรากฏว่าบาดแผลที่ได้รับไม่สาหัสมากนัก เนื่องจากถูกตีถากไปไม่โดนต็มที่ แต่ก็ต้องเย็บแผลหลายเข็มด้วยกัน ถ้าหากถูกตีเข้าที่ศีรษะอย่างจังๆ เต็มที่ เจ้าหน้าที่นายนี้อาจถึงกับต้องเสียชีวิตก็ได้
เมื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ถูกนักโทษคนนี้ทำร้าย เจ้าหน้าที่นายนี้ตอบว่าไม่ทราบ พร้อมกับยืนยันว่าไม่เคยไปกลั่นแกล้งรังแกข่มเหงหรือทุบตีทำร้ายนักโทษคนนี้ เลย เบื้องต้นจึงไม่มีใครทราบว่านักโทษคนนี้ทำร้ายเจ้าหน้าที่นายนี้เพราะเหตุใด
จากการสอบถามนักโทษภายในแดน ๒ ที่เห็นเหตุการณ์ ทุกคนต่างยืนยันว่าไม่เห็นเจ้าหน้าที่นายนี้ไปทำร้ายหรือด่าว่านักโทษที่ก่อ เหตุเลย หลังจากเปิดตึกขังและตรวจนับยอดเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดก็ปล่อยให้นักโทษทุกคนต่างคนต่างไปประกอบกิจธุระของตัว เอง ไม่เห็นเจ้าหน้าที่นายนี้ดุด่าหรือว่าใคร และเท่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครเห็นเจ้าหน้าที่นายนี้ไปรังแกนักโทษคนนี้มา ก่อนเลย ที่นักโทษคนนี้ตะโกนร่ำร้องว่าถูกเจ้าหน้าที่นายนี้ทำร้ายร่างกายก่อนจนต้อง ลงมือล้างแค้นนั้น จึงไม่น่าที่จะเป็นไปได้
หลังจากควบคุมตัวนักโทษคนนี้ส่งฝ่ายควบคุมกลางและรอให้สงบสติอารมณ์ได้แล้ว จึงได้สอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้น นักโทษคนนี้ให้การว่า “จะไม่ให้ผมตีหัวมันได้ยังไงครับ เกิดมาผมยังไม่เคยยอมให้ใครทำร้ายมาก่อน แล้วมันเป็นใครกันถึงได้กล้ามาตีผม ผมยกมือไหว้ขอร้องมันแล้วมันก็ยังจะตี มันเห็นผมเหมือนไม่ใช่คน ผมจึงต้องเอาคืน”
เจ้าหน้าที่สอบสวนจึงถามว่า “เขาตีเอ็งตอนไหนวะสงสัยจริงๆ สอบถามทุกคนภายในแดนแล้ว ไม่เคยมีใครเห็นเขาทำอะไรเอ็งเลยนี่หว่า แล้วไหนบาดแผลที่เขาตีเอ็ง เปิดให้ดูหน่อยซิ”
นักโทษคนนี้ตอบว่า “ผมไม่มีบาดแผลให้เห็นหรอกครับ เพราะมันบุกเข้าไปตีผมในความฝันเมื่อคืนนี้ ผมนอนหลับฝันของผมอยู่ดีๆ อยู่ ๆมันก็โผล่เข้ามาในความฝันของผมแล้วตีผมเอา ตีผมเอา แถมยังหัวเราะชอบใจอีกด้วย ผมยกมือไหว้ขอร้องมันแล้วเพื่อให้มันหยุดตี มันก็ไม่ยอมหยุด ยังคงตีผมจนต้องตกใจตื่นขึ้นมาตอนกลางดึก จากนั้นผมก็นอนไม่หลับอีกเลย ใจผมสั่นหวิวไปหมด
มันต้องมีใจคิดไม่ดีกับผมอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นมันคงไม่เข้ามาในความฝันของผมได้หรอก เพราะมันคนเดียวที่จ้องเล่นงานผมก่อน พอเช้าขึ้นมาผมเห็นหน้าของมันเข้า สีหน้ามันเหมือนกับในความฝันไม่มีผิด เลยอดความแค้นไว้ไม่ได้ ผมจึงต้องรีบลงมือทำมันก่อน ก่อนที่มันจะมาทำผมได้ พอดีผมเห็นเหล็กแป๊ปวางอยู่ที่ข้างกองเลี้ยง เลยหยิบขึ้นมาตีมันเพื่อล้างแค้นที่มันมาตีผมในความฝันก่อนเมื่อคืนนี้” เครื่องดักฟัง
เมื่อได้ยินคำให้การอย่างนั้น ทุกคนต่างถอนหายใจเฮือกพร้อมกับส่ายหัวกันเป็นแถว เจ้าหน้าที่สอบสวนถามว่า “ถามหน่อยเถอะวะ การที่เอ็งฝันว่าถูกเขาตี แล้วเอ็งได้รับบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า ตัวเขาเองก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเอ็งด้วย เอ็งเก็บเอาเขาไปฝันเองนี่หว่า จะไปโทษเขาได้ยังไงกัน มีตัวอย่างที่ไหนกันวะ ฝันเห็นคนทำร้ายร่างกายตนในความฝัน ยังจะต้องผูกใจเจ็บเก็บเอามาแก้แค้นในยามตื่นขึ้นมาอีก นี่ถ้าเอ็งฝันว่าเขาฆ่าเอ็งหรือฟันคอเอ็งขาด เอ็งจะไม่ล้างแค้นถึงขนาดฆ่าเขาตายเลยหรือยังไง”
นักโทษคนนี้ยังคงยืนกราน “ยังไงผมก็ยอมมันไม่ได้อย่างเด็ดขาด ไม่เคยมีใครมาทำกับผมอย่างนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม หากมันไม่คิดร้ายกับผม มันคงไม่เข้ามารบกวนผมในความฝันหรอกครับ และผมคงไม่ต้องตกใจตื่นขึ้นมากลางดึก เชื่อเถอะครับ มันต้องคิดร้ายกับผมก่อนแน่ๆ ถ้าไม่มีใครมาห้ามผมไว้ ผมเอามันถึงตายแน่” รวมความแล้วเจ้าหน้าที่นายนี้คงต้องเจ็บตัวฟรี เนื่องจากเข้าไปอยู่ในความฝันของนักโทษจิตใจไม่ปกติรายนี้
หลังการสอบสวนเสร็จสิ้น ทางเรือนจำจึงสั่งให้ตีตรวนที่ขาของนักโทษรายนี้ไว้ พร้อมกับนำตัวไปคุมขังไว้ที่ตึกขังเดี่ยว และห้ามลงจากตึกขังอย่างเด็ดขาด จนกว่าจะแน่ใจว่าจิตใจได้เป็นปกติดีแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ไปฝันร้ายถึงใครแล้วไปทำร้ายร่างกายคนอื่นอีก พร้อมกับส่งตัวให้แพทย์ตรวจสุขภาพจิตเพื่อรักษาให้หายต่อไป
ขอบคุณบทความจาก เพจแฟนคลับยุทธบางขวาง
https://www.facebook.com/groups/256355191134547
thaispygadget