อีควิน๊อกซ์ ความหวังใหม่ของเหล่านักล่าสมบัติ
Author : Anak Prayoonwong
"ก้าวเล็กๆต่อไปก้าวนี้จะเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่แห่งมวลมนุษยชาติ"
นีล อาร์มสรอง ได้กล่าวประโยคสั้นๆนี้เมื่อเขาได้ก้าวเท้าลงสัมผัสดวงจันทร์เป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ.2512 ภายใต้ชื่อโครงการ อพอลโล 11 โดยใช้ยานอวกาศแบบเซตเทินร์ 5 ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่า คอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งในจรวจครั้งนั้น มีความสามารถในการประมวลผลน้อยกว่าโทรศัพท์ที่เรากำลังถืออยู่ในมือหลายร้อยเท่า ในปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไปอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างเล็กลงเป็นระดับนาโน การประมวลผลแบบควอนตัม การสื่อสารระบบ 5G เช่นเดียวกับเครื่องตรวจจับโลหะในปัจจุบันครับ สมัยก่อนเครื่องตรวจโลหะคงมีรูปลักษณ์ที่ไม่ต่างจากกล่องเหล็กทื่อๆ ดูเทอะทะน้ำหนักมาก แถมใช้แบตเตอรี่มากมายหลายก้อน ยกตัวอย่างเช่น Garrett ADS
Garrett ADS สร้างผลงานไว้มากมาย
ทุกวันนี้ เครื่องตรวจจับโลหะเล็กลงมาก น้ำหนักเบา หลายๆคนบอกว่าเครื่องรุ่นใหม่ๆนี้ห่วย ซึ่งก็อาจจะเป็นความจริงในช่วงแรกของการเปลี่ยนผ่าน ในตอนนี้ เทคโนโลยีได้พาให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในการประมวลผล เช่นการใช้ CPU(หน่วยประมวลผลกลาง)เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ แทนที่การใช้งานแบบ IC(วงจรรวม)แบบเดิม การออกแบบรูปร่างที่ทันสมัย วัสดุใหม่ๆที่ทนทานแต่มีน้ำหนักเบา ใช้แบตเตอรี่น้อยลง ความลึกและความแม่นยำที่มากขึ้น ที่สำคัญ ราคาถูกลงด้วย เครื่องที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ เครื่องในตระกูล อีควิน๊อกซ์ เทคโนโลยีล่าสุด จากไมน์แลป ออสเตรเลีย
เครื่องในตระกูลอีควิน๊อกซ์ ประกอบด้วยสองรุ่น คือ 600 และ 800 โดยที่ทั้งสองรุ่นนั้น มีหน้าตารูปร่างที่คล้ายคลึงกันถึง 99% มีจุดสังเกตแตกต่างกันเพียงปุ่มด้านข้างขวาของตัวเครื่องปุ่มเดียวที่ไม่เหมือนกัน ในเรื่องของเทคโนโลยีที่ใช้งานนั้น เป็นเครื่องที่ถูกจัดอยู่ในเครื่องประเภทความถี่ แต่ใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า multi-IQ 
ซึ่งมีความล้ำหน้าเหนือกว่าเครื่องในประเภทความถี่ด้วยกันมากๆ โดยอาศัยความสามารถของหน่วยประมวลผลที่ทรงพลัง ทำให้ อีควิน๊อคสามารถใช้ความถี่ค้นหาได้พร้อมๆกันถึง 5 ความถี่
อีกทั้ง ตัวเครื่องยังสามารถจุ่มน้ำได้ลึกถึง 3 เมตร หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ มาพร้อมไฟหน้าจอสำหรับการค้นหาในตอนกลางคืน ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวบางเบา ที่สำคัญน้ำหนักเบากว่าเครื่องอื่นๆทั่วไปมาก ทำให้การค้นหาของคุณเป็นไปได้ทุกสภาวะแวดล้อม ไม่ว่าจะบนภูเขา หาดทราย หรือในทะเล ด้ามจับที่สามารถยืดหดได้ แบตเตอรี่ ขนาด 5000 มิลิแอมป์แบบชาร์จได้ในตัวเครื่อง ที่ทำให้การใช้งานทำได้ยาวนานถึง 10 – 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และยังสามารถต่ออายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้นได้โดยการเชื่อมต่อเข้ากับ พาวเวอร์แบงค์ของโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย ทั้งสองรุ่นสามารถต่อหูฟังไรสายที่เป็นแบบ บลูทูธเทคโนโลยี APTX ซึ่งมีอัตราการดีเลย์ของเสียง 32 มิลลิวินาที และสามารถเชื่อมต่อ โมดูลเสียงไร้สาย Wm08 เพื่อประสิทธิภาพการถ่ายทอดเสียงที่เหนือกว่า โดยมีดีเลย์เพียง 17 มิลลิวินาที 
ในเรื่องของความลึกนั้น อีควิน๊อกซ์ ถือว่าทำได้ดีมาก เมื่อลองทดสอบในอากาศเปรียบเทียบกับเครื่องอื่นๆ ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจมาก เนื่องจากได้ความลึกมากกว่าเครื่องอื่นๆถึง 40 – 50% เลยทีเดียว ความแม่นยำในการระบุเป้าหมายทำได้ดีเยี่ยม โดยอาศัยเทคโนโลยี Multi IQ และ 3Fx5 ในรุ่น 600 และ 5Fx8 ในรุ่น 800 ที่ใช้ความถี่ ถึง 5 ความถี่ในการเก็บและวิเคราะห์สัญญาณของวัตถุเป้าหมาย
----------------------------------------------
ชมผลงานของมีค่า จาก Equinox
----------------------------------------------
ทำให้สามารถระบุวัตถุได้อย่างแม่นยำ และสามารถแยกแยะสัญญาณรบกวนที่เกิดจากสายแร่และเกลือได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้การตัดโลหะที่ไม่ต้องการออกไปจากการค้นหานั้นทำได้เป็นเลิศ ใช้งานได้แม้แต่ในทะเลและหาดทรายเปียกที่เครื่องส่วนใหญ่มักใช้งานไม่ได้ การใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ เปิด จูน และเลือกโหมดเครื่องก็พร้อมจะทำให้เราค้นหาแล้ว จึงทำให้ อีควิน๊อกซ์ได้รับการตอบรับอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มผู้เริ่มต้น ผู้ใช้ระดับกลาง หรือมืออาชีพ ในบทความหน้าเราจะพูดถึงความแตกต่างของทั้งสองรุ่นนี้อย่างละเอียดครับ
----------------------------------------------
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับ Equinox
----------------------------------------------
thaispygadget