บทความที่แล้วเราได้กล่าวถึง Q20 ไปแล้ว ในวันนี้ก็ถึงตาของ Q40 พี่กลางแห่งตระกูล เควสกันนะครับ Q40 นั้นเทคโนโลยีหลักก็ยังคงเป็นเทคโนโลยี VLF (คามถี่ต่ำ) เช่นเดียวกับ Q20 การออกแบบภายนอกที่อาศัย โครงร่างร่วมในสายตระกูล
รูปร่างแทบไม่ต่างกับQ20 แต่จานใหญ่กว่า
แต่ความที่แตกต่างที่เห็นได้ชัดนั้น คงจะเป็นเรื่องของขนาดจานที่ใหญ่มากขึ้น จากจานค้นหารุ่น ดับเบิ้ลดี ขนาด 9.5 นิ้วมาเป็นจานดับเบิ้ลดี ที่มีชื่อเรียกเท่ห์ๆว่า "เทอโบร์ ดี" ขนาด 11 นิ้วตามมาตราฐานของขนาดจานที่นิยมในปัจจุบัน จานลงน้ำได้ และมาพร้อมกับซองผ้าสำหรับสวมป้องกันหน้าจอ
ซองผ้าสำหรับสวมป้องกันหน้าจอ
ตัวเครื่องยังคงคุณสมบัติกันน้ำระดับ IP66 (ลุยฝนหนักได้ แต่ไม่สามารถจุ่มน้ำได้) มีไฟหน้าจอ ลำโพงภายใน ความแตกต่างเด่นชัดอีกประการคือ Q40 มาพร้อมกับหูฟังไร้สายบลูทูธ เอาใจคนชอบหูฟังแต่ไม่ชอบให้มีสายเกะกะ หูฟังไร้สายก็มา
ส่วนความแตกต่างภายในนั้น ประการแรกเลยคือ ขนาดแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ถึง 2000 มิลลิแอมป์ เพื่อรองรับการใช้งานอุปกรณ์ไร้สายและเพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น(ตามคู่มือระบุไว้ถึง 30 ชั่วโมง) รวมทั้งความถี่ในการค้นหาที่ปรับขึ้นมา เป็น 13 KHz เหมือนกัน แกแร็ต เอทีแม๊กซ์ เพื่อการคัดแยกประเภทโลหะที่แม่นยำมากขึ้น และยังทำให้ผู้ใช้ไม่พลาดแม้วัตถุเป้าหมายจะมีขนาดเล็กมากอีกด้วย
ในเรื่องของโปรแกรมการใช้งานนั้นก็แตกต่างกันออกไป โดยสามารถแบ่งโทนเสียงระบุเป้าหมายออกได้ถึง 6 โทนเสียง ระบบการตัดโลหะที่ให้ความละเอียดถึง 20 ส่วน 6 โหมดการค้นหา โดย 4 โหมดสำเร็จรูปคือ
1.โหมด ออลเมทัล ทรูออลเมทัล ไม่มีการกรองสัญญาณใดๆเพื่อให้ได้ความลึกมากที่สุด
2.โหมดชายหาด สำหรับการใช้งานบนชายหาดออกแบบมาเพื่อรับมือกับเกลือโดยเฉพาะ
3.โหมดเหรียญ สำหรับการค้นหาเหรียญทั่วๆไป**
4.โหมดเครื่องประดับ สำหรับการค้นหาวัตถุขนาดเล็กที่ไม่ได้มีพื้นที่หน้าตัดกว้าง**
และโหมดสำหรับปรับตั้งค่าเอง อีก 2 โหมด
**เป็นโหมดที่มีเสียงรบกวนน้อยที่สุดในการใช้งาน โหมดชายหาด คือทีเด็ดของQ40
การปรับตั้งการทำงานของเครื่องที่ทำได้ละเอียดมากขึ้น รวมถึงมีสเกลบอกระดับความรบกวนของสายแร่ที่เป็นแบบเรียลไทม์กันเลยทีเดียว การตั้งค่ากราวด์บาล้าน ทั้งแบบอัตโนมัต(ปั้มจาน)และแบบปรับตั้งเอง การปรับความถี่เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนได้อีก 8 ระดับ และยังมี FeSen เพื่อการตรวจสอบว่าวัตถุที่เรากำลังเจอนั้นเป็นเหล็กขนาดใหญ่ด้วยหรือไม่ (เหล็กขนาดใหญ่มักส่งสัญญาณเหมือนวัตถุมีค่า ถึงแม่จะตั้งการตัดเหล็กแล้วก็ตาม) แต่ขนาดจานค้นหาที่ใหญ่ขึ้นก็ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น อีกราวๆ 300 กรัมเช่นเดียวกัน ดีไซน์ของเครื่องรุ่นใหม่ จะออกแบบแก่นมาตรงเพื่อป้องกันความเมื่อยล้า
จุดเด่นของการใช้งานยังคงอยู่ในเรื่องของการออกแบบตัวเครื่องที่ใช้งานได้ถนัดไม่เมื่อยล้า และหน้าตาของอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย ความเชื่อถือได้และความทนทาน ไม่แพ้เครื่องที่มีราคาสูงๆ เช่นเดียวกับเครื่องในตระกูลเควสทุกรุ่น และที่สำคัญ ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับเครื่องที่มีคุณสมบัติใกล้งเคียงหรือเทียบเท่ากัน
คุณสมบัติ |
Quest Q40 |
Garrett AT MAX |
เทคโนโลยีการค้นหา |
VLF ความถี่เดี่ยว |
VLF ความถี่เดี่ยว |
ความถี่ |
13 Khz |
13.6 Khz |
ชนิดจานและขนาด |
Turbo D 11 นิ้ว |
Double D 11 นิ้ว |
หูฟัง |
มีสาย / ไร้สาย |
มีสาย / ไร้สาย |
ความสามารถในการกันน้ำ |
Ip66 |
Ip68 |
กราวด์บาล้าน |
อัตโนมัติ และ ปรับเอง |
อัตโนมัติ และ ปรับเอง |
แบตเตอรี่ |
ในตัว |
AA 4 ก้อน |
น้ำหนัก |
1.3 KG |
1.4 KG |
ราคาขาย |
14900 |
29000 |
จากตารางเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่าคุณสมบัติของเครื่องสองรุ่นนี้นั้น แทบจะเหมือนกันเกือบทุกอย่าง สิ่งที่แตกต่างชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นรูปร่างหน้าตา และราคาขาย โดย Q40 นั้นมีราคาเพียงแค่ครึ่งนึงของแกแรตเท่านั้นเอง เมื่อเทียบความคุ้มค่าและความคุ้มทุนแล้ว ผมว่าเราคงเลือกกันได้ไม่ยากใช่ไหมครับ