หลักการทำงานของประตูตรวจจับโลหะ
- ใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้า ในการตรวจจับวัตถุโลหะที่ซ่อนอยู่บนร่างกายของบุคคล
- หากพบโลหะ จะมีสัญญาณเตือน เช่น ไฟกระพริบ เสียงแจ้งเตือน หรือการแสดงผลบนหน้าจอ
- บางรุ่นสามารถแสดง ตำแหน่งของโลหะที่ตรวจพบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น
- มีระบบ ปรับความไว (Sensitivity Level) เพื่อเลือกตรวจจับโลหะขนาดเล็กหรือเฉพาะโลหะที่เป็นอันตราย
1. วิธีใช้เครื่องตรวจจับโลหะแบบประตูเดินผ่าน
ขั้นตอนการติดตั้งและเปิดใช้งาน
1. เลือกตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสม
- ควรติดตั้งในพื้นที่ที่มี พื้นเรียบ ไม่เป็นโลหะ และไม่มีเครื่องจักรไฟฟ้าแรงสูง อยู่ใกล้ๆ
- เว้นระยะห่างจากวัตถุโลหะขนาดใหญ่ เช่น ลิฟต์, โครงสร้างเหล็ก หรือสายไฟแรงสูง อย่างน้อย 1-2 เมตร
2. ประกอบและตั้งค่าตัวเครื่อง
- เชื่อมต่อสายไฟให้เรียบร้อย
- เปิดเครื่องและเลือก โหมดการตรวจจับ ตามประเภทของสถานที่ เช่น โหมดมาตรฐาน หรือโหมดความปลอดภัยสูง
3. ปรับระดับความไว (Sensitivity Level)
- ตั้งค่าความไวให้เหมาะสม ไม่ให้แจ้งเตือนโลหะขนาดเล็กเกินไป
- ทดสอบโดยให้พนักงานเดินผ่านพร้อมถือโลหะขนาดต่างๆ เช่น กุญแจ มีด หรือโทรศัพท์
4. ตรวจสอบการทำงานของสัญญาณแจ้งเตือน
- สังเกตเสียงแจ้งเตือน (Buzzer) และไฟ LED ที่ระบุจุดตรวจพบโลหะ
- หากพบสัญญาณแจ้งเตือนผิดพลาด ควรปรับระดับความไวให้เหมาะสม
2. ขั้นตอนการเตรียมพื้นที่เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน
ลดแหล่งกำเนิดสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้า
- หลีกเลี่ยงการติดตั้งใกล้กับ เครื่อง X-ray, วิทยุสื่อสาร, สายไฟแรงสูง
- ถ้าจำเป็นต้องอยู่ใกล้อุปกรณ์เหล่านี้ ให้ปรับมุมการติดตั้งหรือเพิ่มฉนวนป้องกัน
รักษาระยะห่างระหว่างเครื่องหลายตัว
- ถ้ามีประตูตรวจจับโลหะมากกว่า 1 ตัว ควรเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 2-3 เมตร เพื่อลดการรบกวนสัญญาณ
ตั้งค่าความไวของเครื่องตรวจจับให้เหมาะสม
- พื้นที่ที่มีโลหะเยอะ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ควรตั้งค่าความไวต่ำ
- พื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น สนามบิน ควรตั้งค่าความไวสูง แต่ต้องปรับแต่งให้ลดการแจ้งเตือนผิดพลาด
ตรวจสอบสภาพพื้น
- หลีกเลี่ยงการติดตั้งบน พื้นโลหะ หรือมี เหล็กเสริมใต้พื้น เพราะอาจรบกวนการตรวจจับ
จำกัดจำนวนบุคคลที่เดินผ่านพร้อมกัน
- ควรให้แต่ละคนเดินผ่านทีละคน ห่างกันประมาณ 2-3 วินาที เพื่อให้การตรวจจับแม่นยำขึ้น
3. การลดโลหะจากเครื่องประดับและอุปกรณ์ของพนักงาน
แนะนำให้บุคลากรที่ผ่านเครื่องตรวจลดโลหะส่วนเกิน เช่น:
3.1 นาฬิกาข้อมือ – อาจทำให้เครื่องแจ้งเตือนผิดพลาด
3.2 โทรศัพท์มือถือ – ควรนำออกก่อนเดินผ่าน
3.3 เข็มขัดโลหะ – หากเป็นไปได้ ให้ใช้เข็มขัดที่ไม่มีหัวโลหะ
3.4 สร้อยคอ/กำไลโลหะ – ถอดออกก่อนเดินผ่าน
3.5 เหรียญ, กุญแจ, พวงกุญแจ – ควรนำออกจากกระเป๋า
3.6 รองเท้าที่มีส่วนประกอบของโลหะ – ตรวจสอบว่ารองเท้ามีเหล็กเสริมพื้นหรือไม่
3.7 กระเป๋าที่มีซิปโลหะขนาดใหญ่ – ควรวางไว้ในเครื่อง X-ray แทน
เคล็ดลับ:
3.8 จัดให้มี ถาดวางสิ่งของ ก่อนเดินผ่านเครื่อง เพื่อลดการแจ้งเตือนผิดพลาด
3.9 ติดป้ายแจ้งให้ผู้เดินผ่าน ถอดสิ่งของโลหะที่สามารถถอดได้ ก่อนเข้าสู่จุดตรวจ
4. ขั้นตอนการผ่านเครื่องตรวจจับโลหะอย่างถูกต้อง
4.1 ถอดโลหะที่สามารถถอดออกได้ (เช่น โทรศัพท์ นาฬิกา เข็มขัด)
4.2 เดินผ่านประตูตรวจจับโลหะด้วยความเร็วปกติ ไม่หยุดกลางทาง
4.3 หากมีเสียงแจ้งเตือน ให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตรวจจับโลหะมือถือ (Handheld Metal Detector) เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม
4.4 หากไม่พบสิ่งต้องสงสัย ให้ผ่านเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย
สรุป :
การใช้งาน ประตูตรวจจับโลหะแบบเดินผ่าน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต้องมีการ เตรียมพื้นที่ที่เหมาะสม, ปรับระดับความไวให้เหมาะกับสถานที่, ลดโลหะจากเครื่องแต่งกายของพนักงาน และให้คำแนะนำผู้ใช้งาน เพื่อลดการแจ้งเตือนผิดพลาดและเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดในพื้นที่ของคุณ
ฮิวโก้ ไทยสปาย
HuGo Thaispy